25 ก.ย. 67 - รอง ปธ.กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายไม่ตีเด็ก เตรียมนัด กมธ.หารือทบทวนร่าง หลังสภามีมติให้ถอนร่างจากการพิจารณาวาระ 2-3 ย้ำเร่งพิจารณาให้เสร็จทันในสมัยประชุมนี้ พร้อมเดินหน้าสื่อสารทำความเข้าใจผู้ปกครอง หวังเป็นกฎหมายช่วยคุ้มครองเด็กจากความรุนแรง

image

            นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ((2) ทำโทษบุตร) พร้อมคณะแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก กลับไปทบทวนก่อนเสนอสภาพิจารณาอีกครั้ง โดยระบุว่า ในชั้นกรรมาธิการฯ ได้ปรับแก้ร่างบนพื้นฐานที่ว่า การลงโทษเด็กนั้นต้องไม่เป็นการทารุณกรรมและไม่เป็นการกระทำใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก ยืนยันว่าเนื้อหาสาระในร่างที่มีการปรับแก้ เป็นไปในแง่สนับสนุนผู้ปกครองใช้วิธีการทำโทษเด็กที่เหมาะสม ไม่มีประเด็นใดที่ระบุว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ไม่สามารถทำโทษบุตรได้ ส่วนที่มีการอภิปรายท้วงติงเรื่องการเฆี่ยนตี ยืนยันว่า คำว่าเฆี่ยนตี กมธ. ไม่ได้เพิ่มเข้าไปใหม่ แต่เป็นคำที่ปรากฏอยู่ในขั้นรับหลักการในวาระที่ 1 ที่สภาให้ความเห็นชอบ จึงมองว่าในการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเพิกถอนร่าง หรือไม่เห็นด้วยในการพิจารณาผ่านร่าง 
            อย่างไรก็ตาม จากมติดังกล่าวของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาจสะท้อนว่าพรรคประชาชนและ กมธ.ยังไม่สามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจในร่างดังกล่าวต่อพ่อ แม่ ผู้ปกครองได้มากพอ เสมือนว่ายังมีความไม่เข้าใจอีกจำนวนมาก เป็นเรื่องที่ กมธ.ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อสื่อสารความเข้าใจที่ถูกต้องว่ากฎหมายดังกล่าวนี้ แม้เป็นกฎหมายฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียว ฉบับเดียว ในสองสมัยประชุมสภาที่ผ่านมาโดยที่ไม่มีร่างของพรรคการเมืองอื่นประกบในการพิจารณา แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมืองที่จะไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว ควรพิจารณาจากเนื้อหาสาระ ที่มุ่งเน้นปกป้องการคุ้มครองสิทธิเด็กมากกว่า
            ทั้งนี้ กมธ.จะนัดประชุมอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อทบทวนว่ามีเหตุจำเป็นหรือมีสิ่งใดที่ต้องปรับแก้หรือไม่ จะมีการปรับแก้ถ้อยคำอื่นใดหรือไม่เพื่อสื่อสารเรื่องเหล่านี้ต่อประชาชนและผู้ปกครองของเด็กทุกคนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดย กมธ.จะทบทวนว่าการแก้ไขร่างดังกล่าวขัดต่อหลักการตามที่มีการกล่าวอ้างในการอภิปรายหรือไม่ รวมถึงทบทวนว่ามีถ้อยคำใด ที่อาจทำให้สมาชิกไม่เข้าใจหรือไม่ ตลอดจนเรื่องกระบวนวิธีการสื่อสารต่อสาธารณะ ที่อาจมีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าอาจสื่อสารเรื่องนี้ได้ไม่มากพอ โดยภายหลัง การพิจารณาทบทวนร่างแล้ว จะรีบส่งกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาเพื่อให้ทันในเวลาที่เหลืออยู่ของการประชุมสภาในสมัยนี้ จะใช้เวลาที่มีอยู่สื่อสารความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวว่าไม่ใช่เพื่อเป้าหมายทางการเมืองของพรรคประชาชน ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นเพื่อเป้าหมายให้เด็กทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ