20 ก.ย. 67 - สส.จุลพงศ์ พรรคประชาชน ผิดหวังต่อการแสดงวิสัยทัศน์ของ รมว.ต่างประเทศ พร้อมยก 4 ประเด็น ตั้งข้อสังเกต แนะ รมว.กำหนดวิสัยทัศน์ให้โดดเด่น เพื่อประเทศมีบทบาทบนเวทีโลก

image

            นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวแสดงความผิดหวังต่อการแสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศของ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการ(รมว.)กระทรวงการต่างประเทศ หลังเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าสิ่งที่แถลงควรจะเป็นพันธกิจมากกว่าวิสัยทัศน์ และตนขอตั้งข้อสังเกตใน 4 ประเด็นจากการแสดงวิสัยทัศน์ดังกล่าว ประเด็นแรก รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับทั้งด้านการเมืองและด้านเศรษฐกิจมากขึ้น จากผลงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงขอให้ รมว.ต่างประเทศพิสูจน์ผลงานแรกว่านานาชาติยอมรับการเมืองของไทยมากขึ้นหรือไม่ คือผลการเสนอตัวแทนของประเทศเข้าชิงที่นั่งเก้าอี้ในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่กำลังจะมีการลงคะแนนจากชาติสมาชิกในปลายเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ตนทราบมาว่ากระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา กำลังจะออกรายงานประจำปีว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยออกมาใหม่ ทราบว่าในส่วนของประเทศไทยยังมีปัญหาสิทธิมนุษยชนหลายเรื่อง ตลอดจนปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในวงราชการที่รุนแรง และการที่รัฐบาลไทยไม่ประกาศถึงนโยบายการจัดตั้งระเบียงสิทธิมนุษยชน ทำให้ไม่มีความชัดเจนในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในมุมมองของนานาชาติ
            นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่การแสดงนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก มีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันกับประเทศมาเลเซีย แต่ไม่มีการกล่าวถึงการพัฒนาพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากจะมีการเจรจากับกัมพูชาในเรื่องนี้ ตนหวังว่า รมว.ต่างประเทศจะไม่เอาความสัมพันธ์และผลประโยชน์ส่วนตัว อยู่เหนืออธิปไตยและผลประโยชน์ของประชาชน ประเด็นต่อมา คือการบริหารจัดการแม่น้ำโขงและการจัดการปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมฝั่งไทยนั้น รมว.ต่างประเทศ  ลืมไปหรือไม่ว่า ไทยยังมีแม่น้ำกั้นเขตแดนกับเมียนมา คือแม่น้ำสาย การที่น้ำเข้าท่วมอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายอย่างรุนแรงในปีนี้ เกิดจากการไหลบ่าของแม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก ที่มาบรรจบกับแม่น้ำโขง ขณะที่ไทยไม่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าและไม่มีข้อมูลการไหลของแม่น้ำสาย เพราะเขตพื้นที่เหนือขึ้นไปอยู่ในเขตปกครองของเมียนมา ซึ่งการใช้การทูตพูดคุยกับทหารเมียนมา จะไม่เกิดประโยชน์อันใดในการแก้ปัญหา และประเด็นสุดท้าย เรื่องวีซ่าร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยใน 5 ประเทศกลุ่มอาเซียน พันธกิจดังกล่าวขัดกับการให้วีซ่าฟรีแก่หลายประเทศที่รัฐบาลเพิ่งประกาศไป ในเมื่อนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศมาประเทศไทยโดยไม่ต้องมีวีซ่าแล้ว เหตุใดจึงต้องขอวีซ่าเพื่อไปประเทศเพื่อนบ้านใน 5 ประเทศดังกล่าว อีกทั้ง ยังมีมาตรฐานที่แตกต่างกันในการขอวีซ่า ซึ่งอาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีคุณภาพล้นทะลักเข้าประเทศไทยมากขึ้น
            นายจุลพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายฝากถึง รมว.ต่างประเทศว่า ขณะนี้ท่านไม่ใช่ข้าราชการประจำอีกต่อไป รมว.ต้องกล้ากำหนดวิสัยทัศน์การต่างประเทศของไทยให้โดดเด่นในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีเสียงดังบนเวทีโลก นั่นคือ เมื่อประเทศไทยพูด ประเทศอื่นต้องฟัง หากสามารถทำได้ พันธกิจมากมายที่แถลงไว้จะไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จได้

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ