รมว.มหาดไทย ขอไม่ให้ความสำคัญคลิปเสียง ชี้เป็นเรื่องที่นานมาแล้ว

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า เสียงที่ปรากฏในคลิปเสียงเป็นตัวเอง โดยระบุว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งเมื่อฟังแล้ว ชัดเจนว่า เป็นเรื่องราวที่นานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน จึงไม่ให้ความสำคัญ หากจะคุยกันขอให้คุยเรื่องวันนี้ และมองว่าการทำให้คนไม่ไว้วางใจกันถือเป็นสิ่งไม่ดี
          นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า การจะสื่อสาร การสนทนากัน ต้องซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน ไม่ควรที่อัดเสียง เพราะอีกหน่อยจะไม่มีใครคุยด้วย ซึ่งตนเองกลัวเป็นแบบนั้นมากกว่า เพราะหากไม่มีการคุยกัน หรือ สื่อสารกันด้วยความระมัดระวัง และระแวงกัน ความร่วมมือต่าง ๆ คงไม่ดีไปด้วย พร้อมยืนยันว่า ตัวเองนั้นไม่กังวล เพราะเวลาที่พูดอะไร พูดตามข้อเท็จจริง แม้จะมีคนเตือนว่า ให้พูดด้วยความระมัดระวัง หรือระวังจะถูกอัดเสียง แต่ตนตอบกลับไปว่า จะอัดก็อัด เพราะสิ่งที่ตัวเองพูดไม่ได้เป็นเรื่องความลับ หรือเรื่องผิดทำนองคลองธรรม
          ส่วนกรณีจะมีคลิปเสียงในบ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่มีผลอะไร และไม่ทราบว่า มีการอัดเสียงจริงหรือไม่ แต่ยืนยันว่าวันที่มีการประชุม ไม่ได้มีการชี้นำ ชี้แนะ ครอบงำ เป็นเพียงการพูดคุยระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีผู้บริหารพรรคนั่งพูดคุยกันถึงการรับมือสถานการณ์ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะต้องเร่งหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ
          เมื่อถามว่าเห็นใจ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่ต้องมาดิสเครดิตกัน ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สงสาร พลเอก ประวิตร หรือไม่ หมายความว่า ผู้สื่อข่าวก็เห็นใจว่าสิ่งที่ถูกกระทำมา ว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเท่าไหร่

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง