นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวในรายการ Law talk กับ สว. ถึงแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะที่ตนเองเคยทำหน้าที่ในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และเป็นที่ปรึกษาให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ว่าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการแก้ปัญหาจากในอดีต เพราะผ่านมากว่า 20 ปี ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ยังมีอยู่ แม้ว่ารัฐบาลแต่ละชุดที่ผ่านมาต่างพูดถึงกระบวนการพูดคุยสันติภาพระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN) แต่จุดอ่อนของหน่วยงานความมั่นคงของไทยคือการขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการจัดการปัญหา ทั้งนี้มองว่าการเอาชนะกลุ่ม BRN จำเป็นต้องทำลายโครงสร้างทั้งหมดที่มีอยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ อาทิ เยาวชนแนวร่วม ผู้สนับสนุนทางการเงินและอาวุธ ศาสนา เศรษฐกิจ และการศึกษา ต้องยอมรับว่าปัจจุบันฝ่ายความมั่นคงของไทย ไม่สามารถทราบข้อมูลว่าในแต่ละวันเยาวชนถูกบ่มเพาะไปสู่ขบวนการของกลุ่ม BRN จำนวนมากน้อยเพียงใด จะรู้ก็ต่อเมื่อเยาวชนกลุ่มดังกล่าวจับอาวุธ และทิ้งหลักฐานไว้จากการก่อเหตุ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องทำลายจุดบ่มเพาะและวิธีการบ่มเพาะที่ยังยึดโยงอยู่กับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ตั้งแต่ระดับเล็กสุดจนถึงระดับอุดมศึกษา
นายไชยยงค์ กล่าวต่อไปว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้การแก้ปัญหาความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่บรรลุผลคือ ที่ผ่านมายังมีความขัดแย้งกันเองระหว่างฝ่ายความปลอดภัยและ ศอ.บต. โดยที่ฝ่ายความมั่นคงมักมองว่า ศอ.บต. เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ จึงคาดหวังว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแก้ไขปัญหา คือการปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมกันทั้งฝ่ายความมั่นคง และ ศอ.บต. โดยกำหนดขอบเขตชัดเจนในอำนาจหน้าที่ โดยให้ ศอ.บต. ดำเนินงานด้านการพัฒนา การเข้าถึงกิจการพลเรือน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเพื่อป้องกันเหตุร้ายโดยไม่แทรกแซงกิจการพลเรือน เชื่อว่าจะเป็นทางออกของปัญหาดังกล่าวได้
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเพจเฟซบุ๊ก วุฒิสภา
