ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ลงมติเห็นชอบวาระ 3 ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... ตามที่คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว พร้อมเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ โดยสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ ปี 2559 ที่ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดครอบคลุมถึงการทำธุรกรรมเล็กน้อย หรือการดำเนินกิจกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นปกติทางการค้าหรือมีเหตุอันสมควรและมีโทษทางอาญา อันเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ประกอบกับการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการและบทกำหนดโทษบางประการยังไม่เหมาะสมกับการกระทำความผิด นอกจากนี้ หน้าที่และอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการรวบรวมหลักฐานและการดำเนินคดียังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น เพื่อให้ประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและปราบปรามในเรื่องดังกล่าวที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ ได้มีข้อสังเกตต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ในหลายประเด็น อาทิ การนำเงินหรือทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกระงับการดำเนินการมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานเท่าที่จำเป็นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงนั้น สมควรที่กฎกระทรวงดังกล่าวจะกำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์การพิจารณาของสำนักงาน ปปง. สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการให้เกิดความชัดเจนและเหมาะสม โดยจะต้องนำเรื่องฐานานุรูปของบุคคลที่ถูกกำหนดมาพิจารณาประกอบด้วย และกรณีการกำหนดค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการศึกษาของบุคคลที่ถูกกำหนดนั้น หากมีเหตุจำเป็นที่สมควรกำหนดไว้ สำนักงาน ปปง. ก็สามารถเสนอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประกาศกำหนดได้ และควรเร่งรัดดำเนินการออกกฎกระทรวง เพื่อให้มีผลใช้บังคับได้ทันเมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและทราบรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดได้ ซึ่งจะทำให้สำนักงาน ปปง. และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องสามารถพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่จัดหา รวบรวม หรือดำเนินการทางการเงินหรือทรัพย์สิน โดยรู้อยู่แล้วว่าผู้ได้รับประโยชน์ทางการเงินหรือทรัพย์สินนั้นเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้สำนักงาน ปปง. ประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดในราชกิจจานุเบกษาด้วย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ประชาชนติดต่อหรือทำธุรกรรมกับบุคคลที่ถูกกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำความผิดและถูกลงโทษตามกฎหมายได้
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
