4 ก.ค.67 - สส.ศศินันท์ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถึงความคืบหน้าการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” หลังพบข้อมูลยังมีความคลาดเคลื่อน ด้าน รมว.กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย ย้ำกรมราชทัณฑ์มีกระบวนการดูแลผู้ต้องหาตามมาตรฐานสากล ส่วนความคืบหน้าคดีขอให้รอคำสั่งศาลที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

image

        นางสาวศศินันท์  ธรรมนิฐินันท์​ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถาม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมทางการเมือง หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” ที่เวลาผ่านไปแล้วกว่า 2 เดือน แต่ยังไม่มีความชัดเจนถึงกระบวนการรักษาชีวิตระหว่างที่ถูกฝากขังภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 นางสาวเนติพรได้ถูกศาลถอนประกันตัวจากคดีอาญามาตรา 112 และถูกตัดสินให้จำคุกในคดีละเมิดอำนาจศาล 1 เดือน ซึ่งคดีดังกล่าวจะพ้นโทษในวันที่ 26 ก.พ.67 ซึ่งระหว่างเดือน ก.พ.67 นางสาวเนติพร ถูกฝากขังในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดี ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.67 หลังจากถูกตัดสินจำคุก นางสาวเนติพร ได้ประกาศเรื่องอดอาหารจนอาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง และวันที่ 14 พ.ค.67 นางสาวเนติพร ได้เสียชีวิตระหว่างที่ถูกควบคุมตัว จากนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงว่า กระทรวงยุติธรรม จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะให้ความร่วมมือกับญาติในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนจึงขอสอบถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า เรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างไร นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร และเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ยังมีความคลาดเคลื่อน ไม่สอดคล้องกัน ตนมีข้อสังเกตว่า มาตรฐานการดูแลผู้ป่วยของกรมราชทัณฑ์มีปัญหาหรือไม่ และสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร คือ อะไร เหตุใดกระบวนการการกู้ชีพจึงมีความล่าช้า

        พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวชี้แจงว่า กรณีการเสียชีวิตของนาวสาวเนติพร เสน่ห์สังคม นั้นเป็นการเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงานที่มีเงื่อนไขในการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ โดยให้อัยการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และมีแพทย์ที่ไม่ใช่แพทย์ของกรมราชทัณฑ์เข้าร่วมด้วย โดยกระบวนการดังกล่าวต้องเปิดโอกาสให้ญาติ และทนายความ เข้าร่วมตลอดเส้นทาง ส่วนกรณี นางสาวเนติพร นั้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการเสียสมดุลเกลือแร่ในเลือด ร่วมกับโรคหัวใจโต ซึ่งกรณีดังกล่าว กระทรวงยุติธรรม ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 8 คน ซึ่งผลการสอบข้อเท็จจริงจะไม่มีผลทางกฎหมาย แต่ศาลจะเป็นผู้ชี้สาเหตุการเสียชีวิต ในส่วนกระทรวงยุติธรรม ได้ขยายเวลาให้กับการทำงานของคณะกรรมการ ออกไปอีก 30 วัน และได้ทำความเห็นเบื้องต้นว่า เป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ โดยมีสาเหตุจากการเสียสมดุลเกลือแร่ในเลือด และโรคหัวใจโต ไม่ปรากฏร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด อ้างอิงจากใบมรณะบัตร การตรวจพิสูจน์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และกล้องวงจรปิดในคืนวันเกิดเหตุด้วย ดังนั้น ตนขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การไต่สวน และการพิจารณาคดีของศาล ซึ่งการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ ก็จะเปิดโอกาสให้บุพการี ญาติ และทนายความ ได้ยื่นต่อศาล หากมีพยานหลักฐานเพิ่มก็สามารถส่งเข้าไปได้ ตนยืนยันว่า การดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ เป็นไปตามวิชาชีพ มาตรฐานสากล และหลักการแพทย์ หลังจากนี้ขอให้รอการพิจารณาคดีและคำสั่งของศาลซึ่งจะถือว่าเป็นที่สุด มีความเที่ยงธรรมกับทุกฝ่าย แต่จะไม่กระทบต่อสิทธิที่จะนำไปฟ้องร้องหรือพิจารณาคดีของพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่น

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ