24 มิ.ย.67 - สผ. จัดกิจกรรมรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง ประจำปี 67 พร้อมเปิดเวทีเสวนาหัวข้อบทบาท กมธ. กับการแก้ไขปัญหาประชาชน และหัวข้อบทบาทของยุวสมาชิกรัฐสภาไทยในการขับเคลื่อนการเมืองในรูปแบบของคนรุ่นใหม่

image

   สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดย สำนักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฎร จัดกิจกรรมรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จัดเวทีเสวนาหัวข้อบทบาทคณะกรรมาธิการกับการแก้ไขปัญหาประชาชน ณ โรงแรมตรัง แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมี นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร  นายเทอดชาติ ชัยพงษ์  รองประธาน กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร  นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร รองประธาน กมธ.การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร  และนางสาวนิตยา มีศรี กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมนำกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ยุวชนประชาธิปไตยของรัฐสภา ซึ่งการเสวนาดังกล่าว มีการกล่าวถึงบทบาทหน้าที่และอำนาจของ กมธ. ช่องทางในการรับทราบปัญหาของ กมธ. การเสนอปัญหาสู่ กมธ. ตลอดจน กระบวนการแก้ไขปัญหาของ กมธ. จนแล้วเสร็จ จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเสวนาซักถาม

   ต่อมา ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวทักทายและพูดคุยกับยุวชนประชาธิปไตยที่เข้าร่วมโครงการรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง  และร่วมรับฟังการเสวนาหัวข้อบทบาทของยุวสมาชิกรัฐสภาไทยในการขับเคลื่อนการเมืองในรูปแบบของคนรุ่นใหม่ โครงการรวมรุ่นยุวชนเพื่อการสร้างความเป็นพลเมือง โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายสกล สุนทรวานิชย์กิจ สส. จังหวัดปทุมธานี  นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพมหานคร  น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สส. กรุงเทพมหานคร และ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส. กรุงเทพมหานคร ร่วมเวทีเสวนา

   นายสกล สุนทรวานิชย์ สส. จังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ชมรมยุวสมาชิกได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีสมาชิกรัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และ สส. ที่มีอายุไม่เกิน 45 ปี จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการถ่ายทอดและผลักดันให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น และทำให้ทุกคนเห็นว่าประชาชนมีอำนาจ เพราะปัจจุบันประชาชนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจ จึงเป็นหน้าที่ของยุวสมาชิกรัฐสภาในการที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้

   ด้าน นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า เด็กรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น และอยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการที่ตนเข้ามาทำงานการเมืองเพราะอยากเห็นประเทศมีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นหากเด็กรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็ยินดีที่จะให้เข้ามาทำหน้าแทน เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน

   ส่วน น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่เข้ามาทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจุดเริ่มต้นจากการที่คิดว่าปัจจุบันประเทศของเรายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งในช่วงของโควิดมีประชาชนมากมายที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนทุกคน โดยหากยุวชนคนใดมีความคิดที่อยากที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน ก็เข้ามาช่วยคิด ช่วยกันเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนได้

   ขณะที่ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การทำหน้าที่ของ สส. ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่เราจะต้องแบกรับภาระปัญหาของประชาชน ซึ่งเราจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ได้ ดังนั้น ขอให้ยุวชนที่อยากเป็น สส. คิดไว้เลยว่าถ้าได้เป็น สส. แล้วอยากแก้กฎหมายอะไร อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งในอนาคตสิ่งที่อยากจะเห็นก็คือ อยากเห็นสัดส่วนของผู้หญิงที่เป็น สส. มากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของการเสวนา ได้เปิดโอกาสให้ยุวชนประชาธิปไตย ซักถามและร่วมแสดงความคิดเห็น โดยยุวชนฯ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ในพื้นที่ของตนเองเป็นจำนวนมาก อาทิ ปัญหามลพิษ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ปัญหามลพิษการส่งกลิ่นเหม็นของโรงงานในเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี ด้วย 

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ