นายนิกร จำนง ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา แถลงว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ลงนามในคำสั่งรัฐสภา ที่ 42/2567 ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา ซึ่งขณะนี้ได้องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ครบถ้วนแล้ว โดยมีประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ คณะต่างๆ ของทั้ง 2 สภา อาทิ กมธ.คมนาคม กมธ.การศึกษา กมธ.การกฎหมายฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมโรค ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ผู้เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้มีคำสั่งให้มีการประชุมร่วมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ โดยจะนำกรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เข้าเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วน เพื่อร่วมกันเสนอแนวทางปฏิบัติในการยับยั้งความสูญเสียซ้ำซาก
นายนิกร กล่าวต่อว่า ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม ในคณะกรรมการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว ได้เสนอความเห็นเป็นข้อสังเกตผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรผ่านไปยังรัฐบาลในขณะนั้น โดยเฉพาะกรณีความปลอดภัยทางถนนของเด็กนักเรียนในการเดินทางไปทัศนศึกษา โดยจะนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา ทั้งประเด็นยานพาหนะปลอดภัย ด้านรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียน ที่ต้องควบคุมมาตรฐานของกฎหมาย การเสนอให้โรงเรียนและสถานศึกษามีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่ยังเยาว์วัยต้องมีมาตรการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ การเสนอให้มีการควบคุมรถรับจ้างอย่างใกล้ชิดทั้งมาตรฐานของรถ การตรวจสอบมาตรฐานรถ ตลอดจนอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยภายในรถ ประตูฉุกเฉิน การซักซ้อมการใช้งานของอุปกรณ์ นอกจากนี้ ได้เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเร่งพัฒนาระบบความปลอดภัยรถรับจ้าง และเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายและกำกับดูแลการเดินทางไปทัศนศึกษาอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความประหยัด
นายนิกร ย้ำว่า ในฐานะผู้ทำงานด้านความปลอดภัยทางถนนมากว่า 20 ปี กรณีการสูญเสียนี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ทั้งที่แท้จริงแล้วมีกฎหมายและระเบียบปฏิบัติอยู่เกือบครบถ้วน แต่ปัญหาคือขาดการบังคับใช้ในภาคปฏิบัติและติดตามประเมินผลจากฝ่ายกำกับดูแลนโยบาย ทั้งนี้ เชื่อว่าการตั้งกลไกของรัฐสภาในการตั้งกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภาครั้งนี้ จะนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำอีกอย่างเป็นรูปรรม
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
