4 ก.ค. 67 - กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร ห่วงไทยเข้าร่วมสมาชิกประเทศกลุ่ม BRICS หวั่นกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ในเวทีโลก 

image

           นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุม กมธ.ได้พิจารณา ศึกษาประโยชน์และผลกระทบด้านความมั่นคงและยุทธศาสตร์ชาติด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกรณีที่ไทยเข้าร่วมกลุ่ม BRICS หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และการไม่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครน ณ สมาพันธรัฐสวิส เนื่องจากสองกรณีดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงแห่งรัฐและภาพลักษณ์ของไทยต่อเวทีโลกได้ โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้ข้อมูล

            โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติให้ความเห็นว่าการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ต้องพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างมาก และมองว่าไทยสามารถเข้าร่วมในฐานะของประเทศผู้สังเกตการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในฐานะประเทศสมาชิกทันที ส่วนในเรื่องการไม่ลงนามรับรองการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครนนั้น สภาความมั่นคงแห่งชาติประเมินว่า แม้ไทยจะรักษาความสัมพันธ์กับรัสเซียไว้ได้ แต่ก็สูญเสียโอกาสที่จะแสดงบทบาทของไทยในเวทีโลก และกังวลว่าไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากนานาประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศมองว่าการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS นั้น ไม่มีผลเสียแม้จะไม่มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนอย่างมาตรการทางการค้าหรือมาตรการทางภาษี ส่วนการไม่ลงนามรับรองการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครน เนื่องจากรัฐบาลไทยมองว่าเป็นรายงานการประชุมที่เกิดจากคู่ขัดแย้งฝ่ายเดียว อีกทั้งมีนัยยะทางการเมืองสูง จึงขอใช้เวลารวบรวมความเห็นและตัดสินใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ไทยสามารถลงนามรับรองการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครนภายหลังได้

            ภายหลังรับฟังการชี้แจง ที่ประชุม กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าร่วมกลุ่ม BRICS เป็นกลุ่มพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่มีความพยายามคานอำนาจกับกลุ่มอำนาจของชาติตะวันตกจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของไทยต่อเวทีโลกตะวันตก ขณะเดียวกันมีความกังวลต่อจุดยืนของรัฐบาลไทยต่อกรณีความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย จากความล่าช้าในการลงนามรับรองการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครน ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้เลือกข้างรัสเซียไปแล้ว และ กมธ.มองว่า ไม่มีผลเสียอะไรมากหากลงนามรับรองเนื่องจากการรุกรานของรัสเซียเป็นเรื่องที่มีความผิดชัดเจน ทั้งนี้ กมธ.ได้จัดทำหนังสือแสดงความเห็นถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นการลงนามหรือไม่ลงนามในการรับรองการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมาก

           นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการเดินทางศึกษาดูงาน ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ที่ผ่านมาว่า พบข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการรับมือกับผู้ลี้ภัยด้วยการสร้างระบบรองรับ การดูแลให้สิทธิชาวยูเครนผู้ลี้ภัยทั้งการศึกษา สร้างอาชีพ จึงมองว่าไทยสามารถนำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการผู้หนีภัยการสู้รบจาดประเทศเพื่อนบ้านได้ และยังมีการใช้เทคโนโลยี AI ในการบริหารจัดการชายแดน จึงมีการหารือใน กมธ.ว่าจะตั้งอนุ กมธ.ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งหน่วยงานดูแลชายแดนโดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆตามแนวชายแดน เพิ่มประสิทธิภาพชายแดนไทย

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ