สส.กฤช พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลถึงมาตรการช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้าน

        นายกฤช  ศิลปชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดระยอง พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม ถาม นายอรรถกร  ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ความคืบหน้าข้อเสนอนโยบายประมงและพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านไทย ว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ต.ค.66 สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายการประมงทะเลและพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน พ.ศ. 2566 ต่อร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน และการทำประมงที่นำไปสู่ความยั่งยืนทางทะเลเพื่อสร้างหลักประกันทางอาหารให้ประเทศ โดยมีข้อเสนอแบ่งออกเป็น 2 หมวด ได้แก่ หมวดที่หนึ่ง ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านในประเทศ เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถเข้าถึงทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างเป็นธรรม ผ่านการแก้ไขอุปสรรคและสร้างหลักประกันการเข้าถึงด้วยมาตรการต่าง ๆ ส่วนหมวดที่สอง นโยบายว่าด้วยการประมงและทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างหลักประกันทางอาหารให้ประเทศ ดังนั้น ตนจึงขอสอบถามความคืบหน้าถึงการสนับสนุนน้ำมันราคาต่ำให้กับชาวประมงพื้นบ้าน โดยน้ำมันเครื่องยนต์ เป็นต้นทุนหลักของการทำประมงพื้นบ้าน รวมทั้งการสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งของประมงพื้นบ้านและการตั้งกองทุนประกันกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแนวทางให้ความช่วยเหลือเยียวยาชาวประมงพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และการขยายนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเล และสัตว์น้ำอย่างไร

        นายอรรถกร  ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคของการทำประมงพื้นบ้านขณะนี้อยู่ที่ต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนพลังงาน แต่ปัญหาค่าน้ำมันราคาสูง โดยกระทรวงฯ มีการตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาข้อเสนอตามนโยบายการประมงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 ได้พิจารณาข้อเสนอให้มีการสนับสนุนค่าน้ำมัน 1,275 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน ผู้เข้าร่วมโครงการ 45,000 ราย ใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านบาท แต่คณะกรรมการฯ ยังมีข้อสังเกตถึงความยั่งยืนของโครงการ กรมประมง จึงมีแนวทางสนับสนุนน้ำมันผ่าน ฟลีทการ์ด (Fleet Card) จะทำให้รัฐมั่นใจได้ว่าเงินอุดหนุนจะถูกนำไปใช้ซื้อน้ำมันตามวัตถุประสงค์ของโครงการ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ภาครัฐ มีการสนับสนุนน้ำมันเขียว หรือน้ำมันที่มีราคาถูกให้กับผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ความช่วยเหลือเมื่อเทียบกับประมงพื้นบ้านยังมีความเหลื่อมล้ำกันอยู่ ดังนั้น กรมประมงกำลังหารือกับคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร ซึ่งมีกรมสรรพสามิตเป็นเจ้าภาพ และจะมีการลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อรับฟังความเห็นจากสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และจะหาแนวทางให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการอื่น ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีนโยบายจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนการทำกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งของชาวประมงพื้นบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่ออุดหนุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมประมง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรชุมชน องค์กรละไม่เกิน 1 แสนบาท โดยในปี 2568 คาดว่าจะมี 200 องค์กรชุมชนที่จะได้รับจัดสรรงบประมาณ

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง