นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งเป็นการประชุมวันแรกของการเปิดสมัยประชุม และประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดประชุมในเวลา 13.58 น.ภายหลังมีการเสนอนับองค์ประชุม ว่าเนื่องจาก เป็นการประชุมวันแรกและรัฐมนตรีมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษ ซึ่งหลายคนที่เป็นรัฐมนตรี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) ด้วย จึงไม่สามารถมาประชุมได้ ประกอบกับมีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ และ กมธ.วิสามัญด้วย แต่เป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่ต้องมาประชุมให้ครบองค์ประชุม ดังนั้นการประชุมสภาฯ ครั้งถัดไปวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ควรคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมสามารถเดินหน้าได้ เพราะนอกจากการปรึกษาหารือ และการตั้งกระทู้ถามแล้ว ยังมีกฎหมายสำคัญที่ค้างการพิจารณาหลายฉบับ รวมถึงรายงานการปฎิบัติหน้าที่ของ กมธ.อีกหลายชุด หากต่อไปมีการนับองค์ประชุม การประชุม กมธ. อาจต้องไปประชุมวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธและวันพฤหัสบดี และต้องดูเวลาให้เหมาะสม
ต่อข้อซักถามว่าเมื่อรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ อาจต้องโดนนับองค์ประชุมตลอดควรแก้ปัญหานี้อย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเสียงข้างมากหรือเสียงปริ่มน้ำ คงไม่เกี่ยวกับการประชุมเพราะรัฐบาลเสียงข้างมาก สามารถล้มได้ หากสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบ ส่วนนี้ต้องปรับ ขณะที่สภาต้องดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ส่วนองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน เพราะหน้าที่สำคัญของสมาชิกคือประชุมในสภาเป็นหลัก ส่วนมองว่าจะทำให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติสะดุดลงหรือไม่ ระบุว่าคงไม่มีปัญหา ทุกคนที่เป็นสมาชิกคงต้องการให้การประชุมเดินหน้าไปด้วยดี และปัญหาที่เกิดขึ้นคงต้องแก้ไข พร้อมย้ำว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิกที่ต้องมาประชุมสภาใหญ่เป็นหลัก
ส่วนการที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ชิงปิดการประชุมก่อนรู้ผลองค์ประชุมนั้น เหมาะสมหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประธานในที่ประชุมจะพิจารณาดูว่าถ้าประชุมต่อไปจะครบองค์ประชุมหรือไม่ ถ้านับไปไม่ครบ การปิดประชุม พักการประชุม หรือนับองค์ประชุม เป็นกระบวนการของสภาที่สามารถทำได้ เพราะเห็นว่าถ้านับองค์ประชุมจะเสียเวลา เมื่อปิดประชุมจะได้ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น จึงสามารถเลิกประชุมก่อนได้
ส่วนข้อเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ เพื่อให้ผ่านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ไปก่อนนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในฐานะประธานสภาฯ ต้องเป็นกลางทางการเมือง การคุยและปรับปรุงรัฐบาลเป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตนไม่สามารถแสดงความเห็น ว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรได้ ถ้าไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับและกฎหมาย ทุกฝ่ายสามารถดำเนินการได้ ประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้ สามารถปรับได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน
ส่วนการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้องรอวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน หารือกันถึงความพร้อมในการพิจารณา โดยตนต้องการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับการหารือของทั้งสองฝ่าย
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง