30 มิ.ย. 68 - วุฒิสภา-นักวิชาการ ร่วมวงเสวนา Pride Month มองอนาคต LGBTQIAN+ ไทย หลังมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม

image

          พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานเปิดการเสวนาเนื่องในเดือนแห่งความภาคภูมิใจในความหลากหลายทางเพศ (Pride month) เรื่อง "ก้าวต่อไปของ LGBTQIAN+ ไทย : พลัง ความหวัง ความเท่าเทียม" ที่จัดขึ้นโดยคณะอนุกรรมาธิการกิจการสตรี และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา โดยมีนักวิชาการ คู่รัก LGBTQIAN+ และอินฟลูเอนเซอร์ ตลอดจนภาคประชาชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วม
          นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เนื่องจากเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นที่รู้จักในระดับสากลว่าเป็น "Pride Month" หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจที่มีความสำคัญต่อชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ และถือเป็นโอกาสในการเฉลิมฉลองอัตลักษณ์ พร้อมทั้งส่งสริมการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศให้กว้างขวางขึ้นในสังคม ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในทวีปเอเชียที่มีความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างต่อเนื่องและชัดเจนมากขึ้น ทั้งในด้านกฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งให้การรับรองการหมั้นและการสมรสระหว่างบุคคล โดยไม่จำกัดเฉพาะคู่ชายและหญิง อีกทั้งการส่งเสริมนโยบายต้านต่าง ๆ เช่น ด้านสาธารณสุขที่ให้สิทธิเข้าถึงยาฮอร์โมนบำบัดสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ การจัดการเรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับความหลากหลายทางเพศในระบบการศึกษา การขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยว การแต่งงาน การศัลยกรรม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและสังคมเพื่อลดอคติทางเพศ
          ด้านรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง กล่าวเปิดการเสวนาใจความตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศยังคงเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ของการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางด้านกฎหมาย ด้านการสาธารณสุข การศึกษา การยอมรับทางสังคม การเข้าถึงคุณภาพชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจและการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะ ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ทราบกันดีว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่บังคับใช้เพียงไม่นาน ยังมีช่องว่างและจะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อไป โดยหลักประกันและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งจะสามารถให้บริการบุคคลทุกประเภททุกกลุ่ม โดยไม่เลือกปฏิบัติ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเสวนาครั้งนี้ จะเป็นพื้นที่ให้ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนกฎหมายและนโยบายต่าง ๆ ให้กับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ ตลอดจนได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วนในทุกมิติในสังคม ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไป ทำให้เกิดการยอมรับในสิทธิของบุคคลมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งการเข้าร่วมเสวนานี้ จะได้ค้นหาว่าอะไรที่ยังเป็นข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย การยอมรับทางสังคม การมีส่วนร่วมในเรื่องอื่น ๆ ที่จะนำพากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไปสู่สิ่งที่ทำลายข้อจำกัดนั้น ไปสู่โลกที่กว้างขึ้น และได้รับการยอมรับทางสังคมให้มองเห็นความสำคัญ และจะได้หาทิศทางร่วมกัน นำพาไปสู่ความเท่าเทียมและได้รับการยอมรับมากขึ้น
          สำหรับกิจกรรมในการเสวนา ประกอบด้วย วงคิดวงคุย เรื่อง "ก้าวต่อไปของ LGBTQIAN+ ไทย : พลัง ความหวัง ความเท่าเทียม" โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวชิรวิชญ์ ศรีดวงมณีฉาย และนายวิญญ์ลภัส ศรีสกุลเมฆ
คู่รัก LGBTQIAN+ และอินฟลูเอนเซอร์ และการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เศรษฐกิจสีชมพู (Pink Economy) รายได้ และการจ้างงาน กลุ่มที่ 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กลุ่มที่ 3 การสาธารณสุข สุขภาพและอนามัย และกลุ่มที่ 4 การศึกษา
          ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายและนโยบาย ที่ได้จากการเสวนาในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิ สวัสดิการด้านต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ