30 มิ.ย.68 - พรรคภูมิใจไทย จ่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ปมคลิปเสียงกระทบมั่นคง ชี้ เป็นจังหวะเหมาะสมที่สุด เรียกร้อง นายกฯ ใช้เวทีสภาฯ แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน

image

        นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยกร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทยได้จัดทำร่างญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นแล้ว โดยเนื้อหามุ่งไปที่นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก แต่อาจมีรัฐมนตรีรายอื่นถูกรวมอยู่ในญัตติด้วย ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยมี สส. ทั้งหมด 69 คน ซึ่งยังไม่เพียงพอในการยื่นญัตติที่ต้องใช้เสียงขั้นต่ำ 99 เสียง ทำให้พรรคต้องประสานกับพรรคอื่น เพื่อร่วมลงชื่อในญัตติครั้งนี้ โดยมีการติดต่อไปยังหลายพรรคแล้ว อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเป็นธรรม พรรคประชาชน และพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ได้ตอบรับเบื้องต้นว่าพร้อมลงชื่อไม่ว่าจะเป็นญัตติของพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคฝ่ายค้านอื่น และได้เสนอแนวทางว่าไม่ว่าพรรคใดจะเสนอร่างญัตติสามารถร่วมมือกันได้ โดยแลกเปลี่ยนการลงนามซึ่งกันและกัน เพื่อให้ญัตติสามารถถูกยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ พร้อมยืนยันว่าเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการยื่นญัตติซักฟอก ไม่เป็นการเสียของ เนื่องจากประชาชนยังคงตั้งคำถามกับประเด็นคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติและศักดิ์ศรีของประเทศไทยของประเทศมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ไม่มีประเด็นใดใหญ่ไปกว่านี้ และเป็นหน้าที่ของสภาที่จะต้องตรวจสอบอย่างจริงจังในเวลาที่เหมาะสมเช่นนี้
           ต่อข้อถามถึงความมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมเสียงฝ่ายค้านให้เพียงพอในการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน แต่ย้ำว่าจุดประสงค์หลักของญัตติครั้งนี้ คือ การนำข้อเท็จจริงมาสู่สภาอย่างเปิดเผย และให้ผู้นำรัฐบาลตอบคำถามต่อประชาชนอย่างชัดเจน เพราะการเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามในสภาจะยิ่งสร้างความสับสน และลดความเชื่อมั่นของประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยยืนยันมาตลอดว่าทุกปัญหาควรใช้พื้นที่สภาในการแก้ไข เพราะในระบบประชาธิปไตย สภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นเวทีของตัวแทนประชาชนจากทั่วประเทศ ซึ่งมีหน้าที่ต้องรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน การนำปัญหามาอภิปรายและหารือกันในสภาจึงเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการตรวจสอบรัฐบาล เพื่อทำให้ประชาชนสบายใจและเข้าใจข้อเท็จจริงผ่านการใช้เวทีสภาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่การปล่อยให้เรื่องราวขยายผลออกไปนอกระบบโดยไม่มีที่สิ้นสุด จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบต่อข้อสงสัยของสาธารณชน โดยการตอบคำถามในสภาอย่างตรงไปตรงมา


อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ