นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุรัฐสภา ถึงสภาพปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ล่าสุดมีการประกาศให้ 7 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ โดยระบุว่า มาตรการที่ภาครัฐประกาศออกมาเพื่อแก้ปัญหาไม่ครอบคลุมและไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ทันท่วงที ซึ่งภาคเหนือประสบปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างหนักในทุกพื้นที่ แต่การประกาศให้เพียงบางอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่เป็นเขตภัยพิบัตินั้น จริง ๆ แล้วฝุ่นละอองมันกระจายไปได้อย่างไร้ขอบเขต ส่วนมาตรการ 9 ข้อที่คณะรัฐมนตรีประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (9 เม.ย. 67) มองว่าเป็นมาตรการปกติ เช่น Work From Home ซึ่งเป็นเรื่องที่รณรงค์กันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน และรัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของฝุ่น ควรมีมาตรการเชิงรุกและเชิงรับไปพร้อมกัน เพราะปัญหานี้เรื้อรังมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว อีกทั้งขณะนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์และในพื้นที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่มาตรการลดฝุ่นละอองไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ประชาชนจึงฝากความหวังกับพายุฝนที่จะชะล้างฝุ่นละออง เพื่อให้สามารถออกมาสนุกสนานรื่นเริงกันได้
นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ยอดการจองห้องพักในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยังไม่ถึง 70% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยก่อนหน้านี้หากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ การท่องเที่ยวในพื้นที่จะมีความคึกคัก อัตราการจองห้องพักอยู่ที่ 90-100% ทุกปี ซึ่งมองว่าเป็นผลมาจากปัญหาฝุ่นละอองที่ทำให้แม้แต่คนเชียงใหม่หรือชาวต่างชาติก็เลือกที่จะไม่ไปท่องเที่ยวในภาคเหนือ แต่เลือกที่จะเดินทางไปภาคใต้แทน โดยหลังจากนี้คาดว่าจะเห็นภาพชัดขึ้น หากเปรียบเทียบไฟลท์บินระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ ฝากถึงรัฐบาลที่ควรมีมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการลดอัตราการเผาป่า ทั้งในและต่างประเทศ โดยพบว่า 99% เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ใช่ไฟป่าที่เกิดขึ้นได้เอง
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
10 เม.ย. 67 - สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ชี้ฝุ่น PM 2.5 ทำท่องเที่ยวสงกรานต์ซบเซา ส่งผลยอดการจองห้องพักไม่ถึง 70% จี้รัฐยกระดับมาตรการเข้มข้น