นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้รัฐบาล และรัฐมนตรี ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเกรงว่าจะเป็นการชี้นำความรู้สึกของประชาชน แต่ตนมีข้อสังเกตว่า สภาวะของรัฐบาลตอนนี้ พรรคเพื่อไทยเปรียบเหมือนถูกจับเป็นตัวประกัน กล่าวคือ รัฐบาลชุดปัจจุบันตั้งขึ้นและคงอยู่ได้จากการสนับสนุนของกลุ่มที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น การผลักดันนโยบายใด ๆ ของรัฐบาลที่เป็นการขัดต่อผลประโยน์ของคนกลุ่มนี้ อาทิ นโยบายปฏิรูปกองทัพ ซึ่งขณะนี้เกิดความท้าทายและยากลำบาก เช่นเดียวกับ การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีอำนาจสูงตามรัฐธรรมนูญ ก็จะพบกับความท้าทายในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่ นโยบายปฏิรูปราคาพลังงาน โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า ก็พบปัญหาว่ารัฐบาลต้องเผชิญกับกลุ่มทุนพลังงาน ที่ได้รับผลกระทบ
ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงความเป็นเอกภาพของรัฐบาล กับพรรคร่วมรัฐบาล ที่ในระยะหลังมีความเห็นแตกต่างกัน นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ประชาชนตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นเอกภาพของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกรณีการลงมติ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... ที่พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไม่ตรงกัน ตนมีข้อสังเกตว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้มีการหารือกันมากน้อยเพียงใดถึงวาระนโยบายที่ต้องร่วมกันผลักดัน แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง แต่รัฐบาลต้องหาข้อยุติความเห็นต่างเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเอกภาพและเกิดประโยชน์กับประชาชนทุกคน ไม่เกิดประโยชน์เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง