นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นำคณะกรรมาธิการแถลงระบุว่าพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวหรือที่เรียกว่า ร่าง พ.ร.บ. สุราชุมชน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วภายหลังการประชุมรวม 10 ครั้ง และคาดว่าจะได้รับการบรรจุในระเบียบวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 2 และ 3 ช่วงปลายเดือน มกราคม 2568 สำหรับร่างกฎหมายนี้นำร่างหลักฉบับของพรรคเพื่อไทยมาพิจารณาร่วมกับร่าง พ.ร.บ.สุรารวมไทย ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ สาระสำคัญเป็นการเพิ่มเติมมาตรา 153 ว่าด้วยการขอใบอนุญาตผลิตสุรา ที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงใบอนุญาตได้อย่างเป็นธรรม สามารถผลิตสุราได้ทุกประเภท ส่งเสริมการใช้ผลผลิตทางการเกษตรในประเทศมาต่อยอดผลิตเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าชุมชน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย คณะกรรมาธิการหวังให้ร่างกฎหมายนี้ผลักดันการสร้างรายได้สู่ชุมชนตามแนวทางของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างงานสร้างอาชีพได้มากขึ้น นอกจากนี้ ขอบคุณ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องการเตรียมปรับแก้ไขกฎกระทรวง เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตผลิตสุราผ่อนคลายกฎเกณฑ์หลายเรื่อง ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงใบอนุญาต เปิดโอกาสเรื่องการบรรจุใส่ถังนำไปจำหน่ายนอกสถานที่ได้ ดังนั้น ภายหลังกฎหมายนำไปสู่การประกาศใช้แล้ว เป็นเรื่องของการเดินหน้าผลักดันการดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติควบคู่กับฝ่ายบริหารคือกระทรวงการคลัง ที่จะต้องแก้ไขกฎกระทรวงนำไปสู่การออกใบอนุญาตกำกับดูแลได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้แทนพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าร่างกฎหมายฉบับนี้สอดรับกับแนวคิดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในการลดการผูกขาดการทำธุรกิจและขยายโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพ เพิ่มโอกาสการประกอบอาชีพประชาชนได้มากขึ้น ผลักดันวิสาหกิจชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นการปลดล็อคที่เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย
ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองประธานกรรมาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่าขอแจ้งข่าวดีว่าภายหลังกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้สุราพื้นบ้านของไทยจะไม่ได้มีเฉพาะสุราขาวอีกต่อไป แต่สามารถผลิตเป็นสุราสีสร้างอัตลักษณ์พิเศษได้อีกทั้งได้รับการปลดล็อกกลไกการผลิตไม่เฉพาะในโรงงานขนาดใหญ่ ถือเป็นการรื้อระบบทุนผูกขาดทั้งการผลิตสุรา และเบียร์
ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง