นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการนักสืบทุนเทา หลังดำเนินการครบ 2 เดือน ว่า โครงการนักสืบทุนเทาเป็นการเปิดรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหานอมินี โดยให้ประชาชนร้องเรียนผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ตลอดจนแก้ไขความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการไทย ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบรุนแรงจากสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ปัจจุบันดำเนินการมากว่า 2 เดือน เปิดให้ประชาชนร้องเรียนใน 6 ประเด็นปัญหา ได้แก่ 1.สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) 2.สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) 3.สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา 4. ธุรกิจที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากผู้บริโภค แต่ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ 5.การโอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีต่างประเทศ และ 6.การประกอบธุรกิจผ่านนอมินีของชาวต่างชาติผิดกฎหมาย โดยจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนผ่านโครงการนักสืบทุนเทาแล้วกว่า 1,121 เรื่อง และ กมธ.ได้ตรวจสอบ คัดกรอง และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จำนวน 1,104 เรื่อง ซึ่งเชิงสถิติเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมากที่สุด คือ ปัญหานอมินีต่างชาติ จำนวน 447 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 44 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาคือปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. จำนวน 241 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 24 และอันดับสาม คือ ปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย อย. จำนวน 180 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 18 ส่วนพื้นที่จังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร กว่า 700 เรื่อง และหากเจาะลึกเฉพาะเขต พบว่า อันดับ 1 เขตห้วยขวาง จำนวน 191 เรื่อง อันดับสอง เขตปทุมวัน จำนวน 95 เรื่อง และอันดับ 3 เขตราชเทวี จำนวน 55 เรื่อง ส่วนจังหวัดรองลงมาคือ ภูเก็ต มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 150 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหานอมินี
ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจวันนี้(26 พ.ย. 2567) ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานเข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยหน่วยงานชี้แจงว่า เรื่องร้องเรียนส่วนมากอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหา ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 72 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ซึ่ง กมธ.ได้ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมให้แจ้งความคืบหน้า กมธ. ขณะที่ทุกหน่วยงานรับปากจะเร่งดำเนินการต่อไป
สำหรับปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแก่ประชาชน ทราบว่าพบปัญหาได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ เช่น ชื่อร้านค้า เลขใบอนุญาด ฯลฯ ทางกรรมาธิการฯ จึงขอให้หน่วยงานพิจารณาเข้าร่วมระบบ Plug In เพื่อติดต่อกับผู้ร้องเรียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อันจะทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เท่านั้น ที่เข้าร่วมระบบ
อย่างไรก็ตาม โครงการนักสืบสายเทา จะปิดรับเรื่องร้องเรียนภายในสิ้นปี 67 นี้ (31 ธ.ค. 67) โดยหลังจากนี้ กมธ.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อนำมารายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ ตลอดจนจะจัดทำข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง