26 ธ.ค.67- กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนกรณีโครงการจัดสรรหมู่บ้านสัมมากรไม่แจ้งข้อเท็จจริงผู้ซื้อก่อนที่จะมีการซื้อขาย อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2553 

image

   นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง รับหนังสือจาก นายโชติ สมทรัพย์ ตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อน กรณีเจ้าของโครงการจัดสรรหมู่บ้านสัมมากร ไม่แจ้งข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงให้ผู้ซื้อก่อนที่จะมีการซื้อขาย และอาจหลีกเลี่ยงกฎหมายการจัดสรรที่ดินในการโอนสาธารณูปโภคถนนในหมู่บ้านให้เป็นที่สาธารณะ เพื่อขอให้ คณะกรรมาธิการฯ ดำเนินการตรวจสอบและแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่อาศัย
      นายโชติ ตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อนกล่าวว่า ด้วยหมู่บ้านสัมมากร รามคำแหง 110 เขตสะพานสูง บริเวณซอย 36 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลและรับผิดชอบของบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลสาธารณูปโภคและความเรียบร้อยต่าง ๆ ของหมู่บ้านสัมมากร ยังไม่ได้มีการจัดตั้งและจดทะเบียนพื้นที่ดังกล่าวให้ถูกต้อง โดยเฟสที่นำมาขายนั้นเป็นเฟสใหม่ ซึ่งควรจะต้องจดจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายก่อนนำมาขาย แต่ลูกบ้านซื้อบ้านแล้วไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากผู้ประกอบการ ส่งผลให้บ้านเรือนจำนวน 37 หลังคาเรือน ซึ่งมีผู้พักอาศัยประมาณ 110 คน ได้รับความเดือดร้อนและอาจมีปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับบ้านและที่ดินที่ซื้อไป รวมทั้งปัญหาที่ลูกบ้านได้รับผลกระทบมายาวนานกว่า 10 ปี และไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม ดินเลนเกาะติดตามพื้นถนน และปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลให้สูญเสียทรัพย์สินและสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก อีกทั้งการกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2553 นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่หมู่บ้านสัมมากรได้จดทะเบียนโอนพื้นที่บริเวณทุกซอยย่อยของซอย 21 ส่วนหนึ่งของซอย 23 และทั้งหมดของซอย 25 ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ทำให้สามารถเปิดประตูสีแดงที่สร้างบริเวณรั้วของหมู่บ้าน ซึ่งกั้นระหว่างหมู่บ้านสัมมากรกับถนนของหมู่บ้านพฤกษชาติ ทั้งนี้ การโอนโฉนดแปลงถนนเป็นทางสาธารณะดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ดังนั้น การจดทะเบียนโอนของผู้จัดสรรที่ดินและการรับจดทะเบียนของสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบึงกุ่ม จึงก่อให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนแก่ลูกบ้านซอย 25 และลูกบ้านหมู่บ้านสัมมากร จำนวน 3,400 หลังคาเรือน และได้รับความเสียหายเนื่องจากปัญหาการจราจรที่ติดขัด ปัญหามลพิษ และปัญหาอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น จากการกระทำดังกล่าว ทำให้ผู้ซื้อถูกเอาเปรียบจากเจ้าของธุรกิจ เนื่องจากการจดทะเบียนโอนนั้น ลูกบ้านไม่เคยรับทราบข้อมูลจากผู้จัดสรรที่ดินแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อลูกบ้านสัมมากรเป็นอย่างมาก จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเชิญหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงมาชี้แจงและหารือเพื่อหาข้อสรุปและนำไปสู่การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป


     ด้านนายกันต์พงษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะกรรมาธิการฯ และจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน

ณรารัฎฐ์  โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง
 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ