19 ส.ค. 68 - ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติรับหลักการร่างกฎหมายยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. บางฉบับที่หมดความจำเป็น ไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ 21 คนพิจารณาต่อในวาระที่สอง

image

            การประชุมวุฒิสภา ได้พิจารณาวาระเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว 
            นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า ตนได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้นำเสนอร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฯ ต่อวุฒิสภา ร่างดังกล่าวมีสาระสำคัญในการยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. รวมถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ที่ออกในช่วงปี 2557-2562 ซึ่งหลายฉบับมีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และถูกมองว่าไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประกอบด้วย 5 ร่าง คือ ร่างที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีบัญชีแนบท้ายให้ยกเลิกประกาศและคำสั่งทั้งสิ้น จำนวน 23 ฉบับที่หมดความจำเป็น ร่างของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยกเลิกประกาศ คำสั่ง คสช. จำนวน 71 ฉบับที่ขัดต่อหลักมนุษยชนและประชาธิปไตย  ร่างของนายรังสิมันต์ โรม เน้นยกเลิก 17 ฉบับเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง ร่างของว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เดชถาวรเจริญ เสนอยกเลิกประกาศ คำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับการผังเมือง และสิ่งแวดล้อม รวมถึงคำสั่ง คสช.ที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภท และร่างของนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เกี่ยวกับการบริหารกิจการชายแดนภาคใต้  พร้อมย้ำว่า แม้หลายประกาศสิ้นผลไปโดยสภาพแต่ยังมีผลในทางกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายยกเลิกโดยชัดแจ้ง พร้อมทั้งมีการเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลในบางกรณีเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
           ด้านนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา(สว.) อภิปรายว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในสภา อันเป็นกลไกของระบอบประชาธิปไตยเพื่อลบล้างสิ่งตกค้างจากการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม การยกเลิกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ควรมีกระบวนการสร้างความรับผิดชอบต่อผู้ที่ใช้อำนาจในช่วงเวลาดังกล่าว และควรเปิดโอกาสให้มีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังเสนอให้บัญชีแนบท้ายเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ เนื่องจากนำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมหาศาลในชั้นอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และชี้ว่าควรมีผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยอ้างถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ในขณะนั้น ที่เคยประกาศว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบ
          ทั้งนี้ ภายหลังการพิจารณา ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติรับร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... ไว้พิจารณา และมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 21 คน เพื่อพิจารณาในวาระที่สองและกำหนดเวลาแปรญัตติภายในกำหนด 7 วัน

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ