24 ส.ค.68-สว.พละวัต จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาสารเคมีปนเปื้อนแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย-แม่น้ำโขง หลังพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานกระทบเศรษฐกิจเชียงรายมหาศาลนับแสนบ้านบาท แนะตั้ง "ศูนย์บูรณาการตรวจสารพิษ" ในพื้นที่เดียว เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ย้ำ ปภ. ต้องเร่งกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการประกาศภัยสารเคมีในแม่น้ำ เพื่อให้มีมาตรฐานสอดคล้องกัน

        นายพละวัต ตันศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จังหวัดเชียงราย กล่าวถึงการตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านจังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจวัดปริมาณสารหนูในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ครั้งที่ 8 เมื่อเดือน ก.ค.68 พบว่าตลอดสายของแม่น้ำกกมีปริมาณสารหนูเกินกว่าค่าที่กำหนด โดยเฉพาะบริเวณต้นแม่น้ำกกที่ติดกับชายแดนไทย-พม่า เช่นเดียวกับแม่น้ำที่ไหลผ่านช่วงจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีปริมาณสารหนูเกินค่ามาตรฐานมากกว่าบริเวณอื่นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ แม่น้ำสายยังพบปริมาณสารหนูสูงถึง 0.055 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานในแหล่งน้ำผิวดินที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.010 มิลลิกรัมต่อลิตร และเมื่อแม่น้ำสายไหลลงสู่แม่น้ำโขง ก็ยังพบปริมาณสารหนูเกินค่ามาตรฐานเช่นเดียวกัน ปัญหาการแพร่กระจายของสารหนูในแม่น้ำเหล่านี้ อาจกลายเป็นปัญหาระดับภูมิภาคได้ในอนาคต โดยเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำ โดยอ้างอิงข้อมูลการจำลองผลกระทบในจังหวัดเชียงรายในปี 2565 พบว่า หากแม่น้ำกกเป็นพิษจนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องได้ในระยะเวลาเพียง 1 ปี จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 1,300 ล้านบาทต่อปี โดยแบ่งเป็นภาคการท่องเที่ยวริมแม่น้ำกก มูลค่าความเสียหาย 773.5 ล้านบาทต่อปี ภาคการเกษตรริมแม่น้ำกก มูลค่าความเสียหาย 511.4 ล้านบาทต่อปี และภาคการประมงริมแม่น้ำกก มูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาทต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา

        นายพละวัต ตันศิริ ได้เสนอแนวทางแก้ไขและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณเพียงพอและต่อเนื่องสำหรับการตรวจสารพิษ โดยเฉพาะจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2569 สำหรับการตรวจสารพิษอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง โดยให้ครอบคลุมการตรวจแม่น้ำ แหล่งน้ำ พืช สัตว์ และคน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและสามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญ คือ การจัดตั้ง "ศูนย์บูรณาการตรวจสารพิษ" ซึ่งควรจัดตั้งในพื้นที่เดียว เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งรัดการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการประกาศภัยสารเคมีในแม่น้ำ เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีมาตรฐานการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน และสามารถปกป้องประชาชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งข้อเสนอแนะดังกล่าวถือเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม สุขภาพประชาชน และเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายในระยะยาว

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ