18 ส.ค. 68 - สว.เทวฤทธิ์ ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องความเป็นธรรมในการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง "หมอสุภัทร" ปมจัดซื้อชุดตรวจ ATK กังวลเลือกปฏิบัติ เหตุ รพ. อื่น ไม่ถูกสอบ ด้าน "สมศักดิ์" ชี้ เพราะไม่มีผู้ร้อง

image

          นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องความเป็นธรรมในการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ต่อนายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรณีดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK โดยถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า 1-2 วันที่ผ่านมา มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเป็นธรรม กรณีนายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการอนุมัติให้จัดซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์รายการเวชภัณฑ์ชุดตรวจค้นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ATK ในแต่ละครั้ง วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 5 ครั้ง ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เป็นการปฏิบัติราชการเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้สำหรับบริษัทผู้ขายและผู้อื่น และทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการร้ายแรง โดยทราบมาว่าในช่วงที่นายแพทย์ สุภัทร ได้จัดซื้อเป็นช่วงแพทย์ชนบทบุกกรุง เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 ซึ่งยังจำกันได้ว่าเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดอย่างหนักและในขณะนั้นเชื้อรุนแรง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีปัญหาวิกฤตเรื่องชุดตรวจและการสาธารณสุขอย่างยิ่ง โดยในช่วงเวลานั้นมีนายแพทย์ สุภัทร ได้ซื้อชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ Standard Q ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง ในราคาชิ้นละ 230 บาทภายใต้เงื่อนไขการให้เครดิต 180 วัน
          นายแพทย์ สุภัทร ถือว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์คนสำคัญและมีบทบาทในวงการสาธารณสุข เป็นคนที่อุทิศตนต่อประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนอย่างอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และสิ่งที่ปรากฏเป็นคำถาม กรณีที่นายแพทย์ สุภัทร ซื้อชุดตรจ ATK เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ในช่วงวิกฤตโควิด-19 หากไม่มีการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกดังกล่าว เชื่อว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะได้รับผลกระทบอย่างสาหัส ซึ่งจากปฏิบัติการนี้ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมมีการสอบนายแพทย์สุภัทร พร้อมทั้งเสนอปลดออกจากราชการ เนื่องจากการจัดซื้อ ATK ในครั้งนั้นไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ทั้งที่โรงพยาบาลหลายแห่งในช่วงเวลานั้นก็ใช้แนวทางการจัดซื้อเดียวกัน แต่กลับไม่มีการตรวจสอบความผิดแต่อย่างใด ดังนั้น จึงขอถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าการที่จะบอกว่านายแพทย์ สุภัทร จัดซื้อ ATK แพงหรือไม่นั้น ควรจะเปรียบเทียบกับข้อมูลการจัดซื้อ ATK ในช่วงเวลาเดียวกันกับโรงพยาบาลอื่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนั้นมีนายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ เป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค มีการนำราคามาเปรียบเทียบกันหรือไม่ เพื่อบอกว่าราคา ATK ที่นายแพทย์ สุภัทร จัดซื้อนั้นแพงเกินไป และจากข่าวสารที่เผยแพร่พบว่ามีโรงพยาบาลที่จัดซื้อชุดตรวจ ATK ในช่วงที่แพทย์ชนบทบุกกรุงหลายโรงพยาบาล แต่ไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเลย อีกทั้งคณะกรรมการตรวจสอบและมีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา อ้างว่านายแพทย์ สุภัทร ทำให้ราชการเสียหาย แต่ไม่เชิญนายแพทย์ สุภัทร มาสอบสวนหรือให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งที่เป็นมติวินัยร้ายแรง ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกสังคมตั้งคำถามว่านี่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
          ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมายังกระทรวงฯ จึงสั่งการให้หน่วยตรวจสอบภายในดำเนินการตรวจสอบ โดยลงพื้นที่โรงพยาบาลจะนะ และโรงพยาบาลระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่มีการตรวจสอบใน 2566 ซึ่งพบความบกพร่องในการบริหารของนายแพทย์ สุภัทร ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ประเด็นแรก คือ การจัดซื้อจัดจ้าง ATK การอนุมัติแบ่งซื้อแบ่งจ้าง ประเด็นที่ 2 การเดินทางมากรุงเทพมหานครเพื่อกิจกรรมแพทย์ชนบทบุกกรุง และประเด็นที่ 3 การสร้างอาคาร 8 ชั้น ที่มีการเปลี่ยนแบบโดยไม่มีการแก้ไขสัญญา เป็นไปโดยพลการและมีเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อพัสดุ เช่น การแปลงสภาพรถราชการ โดยเรื่องดังกล่าว เมื่อมีมูล ปลัดกระทรวงฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) โดยมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ถูกร้องเรียนว่า กรรมการอาจจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ชุดที่ 2 เนื่องจากเลขานุการคณะกรรมการ ได้เปลี่ยนอาชีพจากกระทรวงสาธารณสุขไปเป็น สำนักงานอัยการสูงสุด และชุดที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนและจัดทำรายงานผล โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีมติออกมาแล้ว แต่ยังเป็นความลับ ตนก็ไม่ทราบว่ามติเป็นเช่นไร ซึ่งจะถูกเสนอต่อไปยังปลัดกระทรวงฯ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวงฯ (อ.ก.พ.) ซึ่งตนเป็นประธาน โดยการประชุมจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้
          ส่วนจะดำเนินการสอบสวนโรงพยาบาลอื่น ๆ หรือไม่นั้น ยอมรับว่า หากไม่มีการร้องเรียน การตรวจสอบก็จะล่าช้า เพราะไม่มีการติดตาม แต่หากสมาชิกต้องการให้มีการตรวจสอบที่โรงพยาบาลใดก็สามารถทำหนังสือร้องเรียนให้เกิดการตรวจสอบได้ โดยส่วนตัวเข้าใจถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อ ATK แต่เมื่อมีระเบียบของทางราชการกำหนดไว้ และตนเคยพยายามให้มีการร่างกฎหมาย Law of Efficiency เพื่อผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำผิดระเบียบ ซึ่งการทำสิ่งใดที่ผิดระเบียบเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของราชการที่ต้องทำให้ถูกระเบียบ และหากสิ่งใดที่จะต้องถูกตรวจสอบก็ร้องเรียนมาได้ จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่อย่างไรก็ตามกรณีของนายแพทย์ สุภัทร ตนจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ยังพอมีเวลาอยู่ที่จะสั่งการให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย แต่เรื่องที่ได้พูดคุยกันก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ และสุดท้ายตนยินดีที่จะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาให้ละเอียดขึ้น
          ขณะที่นายเทวฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงให้เข้าใจเรื่องกระบวนการ แต่ก็มีประเด็นที่สังคมตั้งคำถามซึ่งจะส่งผลต่อกำลังใจของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤต หากเป็นไปได้ในเดือนกันยายนนี้ ที่เข้าใจว่าจะมีความกระจ่างชัดตามที่รัฐมนตรีได้ระบุถึง หากสามารถเปิดเผยข้อมูลในเรื่องการสืบสวนสอบสวนได้ คิดว่าจะช่วยคลายความกังวล และเป็นไปได้หรือไม่ว่ารัฐมนตรีจะให้คำมั่นว่าในช่วงที่ได้ข้อมูลมาจะเปิดเผยเพื่อให้ผู้ถูกร้องได้รับทราบ จะได้ไม่คาใจ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจเหตุและผลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
          ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ตอบว่า อะไรที่ไม่เป็นข้อกำหนดว่าเป็นความลับ ตนยินดีจะเปิดเผย แต่หากเป็นข้อกำหนดหรือเป็นระเบียบของทางราชการก็จนใจที่จะทำอย่างนั้น

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ