23 ส.ค. 68 -  คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ สว. พบประชาชน กลุ่มภาคเหนือ (ตอนบน) ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง หนุนขับเคลื่อนโครงการรถไฟรางคู่ เส้นทาง เด่นชัย – เชียงใหม่ สร้างกลไกทางการตลาดให้ภาคเอกชนรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อผลิตพลังงานชีวมวล ช่วยจูงใจประชาชนเลิกเผาป่า

image

         นายพละวัต ตันศิริ รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พบประชาชน กลุ่มภาคเหนือ (ตอนบน) นำคณะลงพื้นที่จังหวัดลำปาง ร่วมหารือกับ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชนก่อนพบประเด็นสำคัญในพื้นที่ แบ่งเป็นประเด็น ด้านการศึกษา ซึ่งภาคส่วนในพื้นที่เสนอให้มีการบูรณาการงานทางวิชาการและการจัดสรรงบประมาณร่วมกัน เนื่องจากโรงเรียนส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีข้อจำกัดด้านระเบียบกฎหมาย เช่น การจัดสรรงบประมาณและอัตรากำลังของบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสรรหาครูผู้เชี่ยวชาญในวิชาต่าง ๆ รวมถึงขาดแคลนครุภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ในยุคเทคโนโลยี ส่วนในด้านเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ เห็นว่าควรขับเคลื่อนโครงการรถไฟรางคู่ เพราะในพื้นที่ภาคเหนือ (ตอนบน) มีเส้นทางรถไฟทางคู่ที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณแล้ว จำนวน 6 สาย แต่เส้นทาง เด่นชัย – เชียงใหม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา หากได้รับอนุมัติจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ และเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการส่งเสริมให้ใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการอุตสาหกรรม แทนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน โดยการผลักดัน โซลาร์ฟาร์ม และการบริหารจัดการชีวมวล เพื่อลดจุดความร้อน (Hotspot) และปัญหาไฟป่า

        การหารือระหว่างคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคเหนือ (ตอนบน) ที่จังหวัดลำปาง กับภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดลำปางยังพบถึงประเด็นการป้องกันไฟป่า ว่าควรมีการดำเนินการชิงเก็บ ลดเผา เก็บใบไม้แห้งในป่า เพื่อลดเชื้อเพลิงของเหตุไฟป่า พร้อมกับเสนอให้มีการสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามารับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรดังกล่าว เพื่อนำไปผลิตพลังงานชีวมวลเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า ซึ่งหากสามารถสร้างกลไกทางการตลาดได้ จะสามารถช่วยจูงใจประชาชนเลิกเผาป่า ลดปัญหาหมอกควัน และสร้างรายได้เสริมให้ชุมชน และสำหรับภาคการเกษตร เห็นว่าควรสนับสนุนให้เกษตรกร ทำการเกษตรมูลค่าสูงด้วยการแปรรูปสินค้า เช่น การผลิต สเปรย์ไล่ยุง ผงสมุนไพรชงดื่ม ลูกประคบ รวมถึงการแปรรูปปศุสัตว์ เช่น น้ำพริกปลาป่น ผงโรยข้าวปรุงสำเร็จ นอกจากนี้ เสนอแนะให้จังหวัดลำปางพัฒนาเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรมเกษตรครบวงจร และชูจุดขายด้านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับติดตามการดำเนินการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคเหนือ เสนอให้ทำการปรับรูปแบบการบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน มุ่งผลิตคนให้มีความสามารถที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึงการวางแผนรองรับแนวโน้มการลดลงของอัตราการเกิด ซึ่งอาจนำไปสู่การควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กในอนาคต เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

         ทั้งนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของคณะกรรมการฯ ในการขับเคลื่อนลำปางให้เป็นเมืองที่อยู่ดีมีสุข  ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเกษตรที่ยั่งยืน การศึกษาเพื่ออนาคต และการรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดศักยภาพของจังหวัดให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

 

ลักขณา เทียกทอง /เรียบเรียง

สำนักประชาสัมพันธ์ สว. ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ