นายสากล ภูลศิริกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวในรายการ Law talk กับ สว. ถึงนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันตามรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2560 กำหนดว่าเด็กไทยจะต้องได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นที่มาที่รัฐบาลและ ศธ. ได้มีโครงการเรียนดีเรียนฟรี 15 ปีขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กที่อยู่ในระบบการศึกษา จำนวน 6.5 ล้านคน และมีโรงเรียนอยู่ในความรับผิดชอบของ ศธ.กว่า 30,000 โรงเรียน พบข้อเท็จจริงว่าการศึกษาของไทยยังมีปัญหามากโดยเฉพาะเด็กในชนบทห่างไกล ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ตั้งแต่ประเด็นอาหารกลางวัน ชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ แต่ค่าอาหารกลางวันต่อหัวของนักเรียนยังอยู่ที่ 22 บาท ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก ส่วนเงินอุดหนุนสำหรับซื้อเครื่องแบบ และอุปกรณ์การเรียน พบว่าสร้างความลำบากให้กับผู้ปกครองที่อยู่ห่างไกล ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเดินทางเข้าเมืองเพื่อหาซื้อเครื่องแบบและอุปกรณ์การเรียน ดังนั้นจึงมองว่ารัฐบาลควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ด้วยการดำเนินการเช่นเดียวกับช่วงก่อนปี พ.ศ. 2552 ได้แก่ การจ่ายงบประมาณสำหรับจัดซื้อเครื่องแบบ และอุปกรณ์การเรียน ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้เป็นผู้จัดซื้อโดยการประกวดราคา ซึ่งจะสร้างความรวดเร็วทำให้เด็กได้สวมใส่ชุดนักเรียนใหม่ในช่วงเปิดภาคเรียน และลดภาระของผู้ปกครอง สอดคล้องตามนโยบายเรียนฟรีอย่างแท้จริง
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง