โดย
พรรคประชาชน นำโดย นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค นายวิจักษณ์ พฤกษ์สุริยา รองเลขาธิการพรรค สัดส่วนภาคใต้ นายเจษฎา ดนตรีเสนาะ สส.ปทุมธานี ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร และนายปกรณ์ อารีกุล อดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ไปยังหลายตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้กำลังใจประชาชนหลังสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้น พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
นางสาวภคมน กล่าวว่า ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีพื้นที่ทั้งภูเขาและทะเล ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับน้ำท่วม เพียงแต่ปีนี้ลำพังการคาดการณ์ด้วยประสบการณ์ไม่เพียงพอ โดยเรื่องสำคัญที่เป็นปัญหาทุกตำบล คือ อัตราการเยียวยาจากรัฐไม่สอดคล้องกับความเสียหายจริง พรรคประชาชนได้เสนอให้ประเมินและเยียวยาตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากปัจจุบันงบเยียวยาในส่วนการซ่อมแซมบ้าน จ่ายสูงสุดเพียง 40,000 บาท แต่บางครัวเรือนบ้านพังทั้งหลัง เงินจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะที่บ้านบางหลังอยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ แม้น้ำไม่ท่วม แต่ประชาชนมีต้นทุนอื่นที่ต้องจ่าย รัฐจึงควรเยียวยา 9,000 บาทถ้วนหน้าด้วย เรื่องนี้จะใช้กลไกคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ผลักดันต่อไป นอกจากทรัพย์สินเสียหายแล้ว สภาพจิตใจของประชาชนก็ควรได้รับการเยียวยา หลายหมู่บ้านต้องระแวดระวังน้ำท่วมปีละ 6 ครั้ง หลายคนท้อแท้ บ้านพังเสียหาย เพราะโครงการผันน้ำที่ก่อสร้างไม่เสร็จขวางทางระบายน้ำในชุมชน เช่น ตำบลไชยมนตรี อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ที่ถูกน้ำท่วมทั้งพื้นที่ อีกปัญหา คือ ประตูระบายน้ำที่สำคัญของจังหวัดเปิดช้าและมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นคอขวด ไม่สอดคล้องกับขนาดคลองและปริมาณน้ำที่ต้องระบาย รวมถึงไม่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวรเอาไว้ เมื่อจะระบายน้ำ ต้องรอขนย้ายเครื่องจักรมาติดตั้ง ทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งเรื่องนี้นายเจษฎา จะนำไปหารือในคณะกรรมาธิการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่อไป นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความไม่แม่นยำในการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนที่ไม่ครอบคลุม รวมถึงความล่าช้าในการตัดสินใจออกคำสั่งของผู้มีอำนาจ ทำให้ผลกระทบตกแก่ประชาชนเต็ม ๆ
นางสาวภคมน กล่าวด้วยว่า พรรคประชาชนจะนำความทุกข์ร้อนของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชไปขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหา โดยเสนอว่าภายใน 6 เดือนนี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องผลักดันให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ คือ การจัดทำแผนจำลองประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมในอนาคตอย่างแม่นยำ เตรียมพื้นที่ระบายน้ำล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่ม และปรับปรุงถนนที่สร้างขวางทางน้ำ จัดทำข้อมูลพยากรณ์ระดับตำบล ระดับอำเภอ เพื่อแจ้งข้อมูลอย่างละเอียดล่วงหน้าแก่ประชาชน และเตรียมความพร้อมข้อมูลและอบรมบุคลากรระดับท้องถิ่นที่ปฏิบัติหน้างาน ให้กล้าตัดสินใจว่าเมื่อน้ำถึงปริมาณเท่าไรจึงต้องอพยพประชาชน และจะอพยพไปไหน อย่างไร
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
