4 ธ.ค. 67 - คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนปมเรือรบเมียนมายิงเรือประมงพื้นบ้านไทย เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ 13 ธ.ค. นี้ รับทราบแนวทางอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย

image

           นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน (ปชน.) รับหนังสือจากนายศรีเพ็ชร บุตรทัด และนางยุพิน ไข่หนู ตัวแทนครอบครัวชาวประมงจังหวัดพังงาที่ได้รับผลกระทบจากกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงพื้นบ้านไทยบริเวณน่านน้ำที่มีความใกล้กันระหว่างฝั่งเมียนมาและฝั่งไทย และมีการจับกุมตัวคนไทย 4 คน แรงงานเมียนมา 27 คน รวมถึงมีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและเปิดเผยหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารุกล้ำน่านน้ำประเทศเมียนมาจนทำให้เกิดการยิงขับไล่และยึดเรือ ขอให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านร่างกาย อุปกรณ์ประมง และทรัพย์สินที่สูญเสีย และขอให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก โดยการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ โดยนายศรีเพ็ชร ระบุว่าตนเองเป็นหนึ่งในชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ หากฝั่งเมียนมาต้องการจะยิงเพื่อตักเตือนควรยิงขึ้นฟ้า ไม่ใช่การยิงเข้ามาที่เรือประมงโดยตรง ซึ่งชาวประมงออกทะเลเพื่อหาปลา ไม่ต้องการไปสู้รบกับใคร

            นายรังสิมันต์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 ประเด็นที่ต้องพิจารณา ได้แก่ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ และการหาหนทางพิสูจน์ว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นการรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ อย่างไรก็ตามการใช้ความรุนแรงในระดับนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และคาดหวังว่าภาครัฐจะเข้าไปดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงท่าทีต่อรัฐบาลเมียนมา และเชื่อว่าทุกคนต่างก็รู้สึกว่าท่าทีของรัฐบาลไทยน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยวันที่ 13 ธ.ค. นี้ กมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาเรื่องดังกล่าว อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และกองทัพเรือ ซึ่งหวังว่าจะได้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ รวมไปถึงได้รับทราบแนวทางอย่างเป็นทางการของทางรัฐบาลว่าจะดำเนินแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างไร แม้ว่าไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ แต่มองว่าการแสดงท่าทีของประเทศไทยมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากไทยเป็นประเทศเอกราช และไม่สามารถยอมรับต่อการกระทำดังกล่าวได้ นอกจากนี้ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย และแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว กมธ.จะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้ พร้อมทั้งจะประสานงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่สูญเสีย ผู้บาดเจ็บ และเรือประมงที่สูญเสียทรัพย์สิน

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ