2 ต.ค. 67 -  มติสภาผู้แทนราษฎร รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ฉบับพรรคเพื่อไทย และฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติไว้พิจารณา หนุนการผลิตสุราของวิสาหกิจชุมชน ช่วยส่งเสริมสินค้าเกษตร สร้างอัตลักษณ์เพื่อการแข่งขันในตลาด

image

        ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....   จำนวน 3 ฉบับ ที่ สส.พรรคฝ่ายค้าน และพรรครัฐบาลเสนอรวม 3 ฉบับ ซึ่งล้วนมีเหตุผลสำคัญในการเสนอเพื่อมุ่งส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการขนาดเล็ก สำหรับฉบับที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคประชาชน กับคณะเป็นผู้เสนอ หรือที่พรรคประชาชนเรียกว่าร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า มีสาระสำคัญในการแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ปลดล็อกการผลิตสุราของผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าแข่งขันในธุรกิจสุรา ลดการผูกขาดในอุตสาหกรรม ซึ่งจะป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น และเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น ในการผลิตสุราเพื่อการค้า ผู้ขออนุญาตผลิตสามารถยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพสามิต โดยรัฐไม่มีข้อกีดกันเกี่ยวกับขนาด กำลังการผลิต กำลังแรงม้า เครื่องจักร จำนวนพนักงาน หรือประเภทบุคคลที่มีสิทธิขออนุญาต หากผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ต้องไม่กำหนดจำนวนทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ ยกเว้นการ กำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย

        สำหรับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.พรรคเพื่อไทย กับคณะเป็นผู้เสนอ มีสาระสำคัญในการในการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ให้การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาต สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย เปิดโอกาสให้สถาบันเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน เข้าถึงใบอนุญาตได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ถือเป็นการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจฐานราก และไม่มีการกำหนดถึงกำลังการผลิตและทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ เช่นเดียวกับฉบับของพรรคประชาชน รวมทั้งต้องคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ส่วนร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กับคณะเป็นผู้เสนอ หรือที่พรรครวมไทยสร้างชาติเรียกว่าร่างกฎหมายสุรารวมไทยนั้น มีเนื้อหาสำคัญในการส่งเสริมสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตสุรา สามารถผลิตสุราสี ที่สามารถใช้ผลไม้ หรือผลิตผลทางการเกษตรอื่น ผสมเจือในสุราได้ จากเดิมที่เป็นเพียงสุราขาว ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งสุราที่ผลิตโดยวิสาหกิจชุมชน และสินค้าทางการเกษตรในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนสามารถผลิตสุราได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของกำลังการผลิตที่จะต้องสูงถึง 30,000 ลิตรต่อวัน 

        ทั้งนี้ เมื่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้วลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวที่ละฉบับ ปรากฏเป็นมติไม่เห็นชอบรับหลักการร่างฉบับของ นายเท่าพิภพ พรรคประชาชน ด้วยเสียง 237 ต่อ 137 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ส่วนฉบับของ นายชนินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรับหลักการด้วยเสียง 384 ต่อ 5 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 7 เสียง และฉบับของ นางศิริวรรณ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรับหลักการด้วยเสียง 385 ต่อ 6 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง จึงถือว่าที่ประชุมเห็นควรรับหลักการร่างกฎหมาย 2 ฉบับไว้พิจารณาต่อในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งที่เป็นประชุมเห็นชอบด้วยกับการตั้งกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 32 คน กำหนดให้มีการแปรญัตติใน 15 วัน โดยใช้ร่างฉบับของ นายชนินทร์ พรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลักในการพิจารณา

ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ