นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามการแก้ปัญหาและพัฒนากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุ กมธ. โดยพบว่าปัจจุบัน กยศ. กำลังประสบปัญหาสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักจาก 2 สาเหตุหลัก คือ ลูกหนี้ กยศ. จำนวนกว่า 2 ล้านราย หรือ 60% ผิดนัดชำระหนี้ และสาเหตุที่ กยศ. ได้รับอนุมัติเงินงบประมาณเงินเพียง 50% ที่เสนอขอจากกระทรวงการคลัง ส่งผลกระทบให้นักศึกษาใหม่จำนวนนับหลายแสนราย ไม่สามารถขอกู้ยืมเงินจาก กยศ. ได้ คณะอนุ กมธ. จึงมีมติที่จะเสนอแนวทางแก้ไข จำนวน 19 ข้อ ถึงนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ให้คณะกรรมการ กยศ. หารือร่วมกับกองทุน เพื่อปรับปรุงระบบการบริหารจัดการในการจัดเก็บหนี้และการนำเงินเข้ากองทุน โดยควรมีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้บริหารทางการเงิน ที่เป็นมืออาชีพ เพื่อวางระบบและบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมควรจัดจ้างบริษัทเอกชนติดตามหนี้ที่เริ่มผิดนัดชำระหนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ รวมทั้งนำข้อมูลลูกหนี้เข้าสู่ระบบเครดิตบูโร เพื่อเสริมวินัยและกระตุ้นให้ผู้กู้ตระหนักถึงผลกระทบต่อการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ชำระหนี้ และเพิ่มฐานข้อมูลลูกหนี้โดยเชื่อมโยงกับข้อมูลผู้เสียภาษี เพื่อให้ติดตามและจัดเก็บได้ครบถ้วน ส่วนการจัดการกระแสเงินสดและเงินหมุนเวียนในกองทุน ควรดำเนินการปรับปรุงประมาณการรายรับให้สอดคล้องกับจำนวนลูกหนี้ที่เข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ และการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากความสมบูรณ์ของระบบจัดเก็บหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (กยศ.connect) และประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านทุกช่องทางเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ที่ค้างชำระตระหนักถึงประโยชน์ของการปรับโครงสร้างหนี้และเข้าร่วมโครงการมากขึ้น โดยควรกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังต้องรวบรวมข้อมูลของผู้ขอยื่นกู้ที่ยังตกค้างในปีการศึกษา 2568 อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้นักเรียน นักศึกษา ขาดโอกาสหรือต้องออกจากระบบการศึกษา ด้วยความไม่พร้อมทางด้านเงินทุนที่จะให้ประเทศขาดบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ โดยสรุป กองทุนต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนให้ได้อย่างแท้จริงต่อไป
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
