นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ประธานอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ในคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการฯ ว่า ปัญหาการจัดการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กที่ปัจจุบันมีมากกว่า 15,000 โรงเรียน และในปี 2570 จะมีมากกว่า 18,000 โรงเรียน เกินกว่าครึ่งของจำนวนโรงเรียนทั้งหมด โดยคณะกรรมาธิการฯ มีความคิดที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กอย่างยั่งยืน โดยพบปัญหาความไม่พร้อมของบุคลากร ปัญหาพื้นฐาน อย่างห้องเรียน สื่อการเรียนการสอน งบประมาณ ซึ่งนับวันปัญหาจะมากขึ้น และทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างเด็กชนบทกับเด็กในเมืองตามมา
นายเทอดชาติ กล่าวว่า การบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก 2 กลุ่ม 6 รูปแบบ กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ต้องปรับตัว ได้แก่ โรงเรียนเดี่ยว (Stand alone) บนเกาะ บนเขา โรงเรียนขนาดเล็กที่คงสภาพเดิม ไม่ขยาย และโรงเรียนที่ขนาดเล็กลง กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่ต้องเปลี่ยนรูปแบบ ได้แก่ โรงเรียนเดี่ยวเป็นรวม โนงเรียนที่เปลี่ยนเป็นศูนย์กลางเรียนรู้ชุมชน และโรงเรียนที่ถ่ายโอนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ มีข้อเสนอแนะให้ควรปรับปรุงอาคาร สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภคต่าง ๆ สนามเด็กเล่น ที่พักอาศัยของครู ตลอดจนแก้ปัญหาการขาดแคลนครู ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยอัตราที่เหมาะสม คือ นักเรียน 1-40 คน ต่อครู 3 คน นักเรียน 41-80 คน ต่อครู 4 คน นักเรียน 81-120 คน ต่อครู 6 คน โดยจะต้องยกระดับคุณภาพของโรงเรียนขนาดเล็ก มีครูเฉพาะทาง และมีผู้บริหาร 1 คน ครูสายสนับสนุน 2 คน ปรับกระบวนการบริหารจัดการ สร้างเครือข่ายการเรียนการสอน เพิ่มคุณภาพของนักเรียน
ขณะเดียวกันการแก้ไขปัญหาจะเกิดขึ้นได้ ภายใต้ 5 เงื่อนไข ได้แก่ 1. กฎหมายหลัก ๆ ต้องแก้ไข คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องให้ความสำคัญ 2. ปรับปรุงกฎหมายฉบับรอง 3. หลักความร่วมมือของชุมชน 4. การใช้เทคโนโลยีกับการบริหารและจัดการเรียนรู้ และ 5. ทัศนคติ หรือ Mind set ใหม่ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กเป็นผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง