30 ต.ค.68 - สส.เท่าพิภพ รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจคราฟต์เบียร์ จี้ตรวจสอบร่างกฎกระทรวงผลิตสุรา เป็นภาระเกินจำเป็น สร้างเงื่อนไขบังคับพาสเจอร์ไรส์ และต้องมีใบอนุญาตโรงงานก่อนผลิต อาจปิดทางผู้ประกอบการรายย่อยและบริวผับขยายตลาด

image

        นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร รับการยื่นเรื่องร้องเรียนจาก นายณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟต์เบียร์ ขอให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ช่วยผลักดันการแก้ไขร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา ที่อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น เพราะเนื้อหาบางส่วนเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายย่อย นายกสมาคมฯ ให้ข้อมูลว่าร่างดังกล่าวมีการเพิ่มเงื่อนไขให้โรงเบียร์ต้องพาสเจอร์ไรส์เบียร์ก่อนบรรจุลงกระป๋องหรือบรรจุลงขวด และจะต้องมีใบอนุญาตโรงงาน (รง.4) ก่อนสั่งผลิต ประเด็นนี้กลายเป็นภาระเกินจำเป็น เพราะปัจจุบันโรงเบียร์ขนาดเล็กที่ผลิตเบียร์เพื่อจำหน่ายในสถานที่ของตนเอง (Brewpub) ที่มีขนาดเครื่องจักรไม่เกิน  50 แรงม้า สามารถบรรจุเบียร์ลงบรรจุภัณฑ์ได้ทันที รวมทั้งที่ต่างประเทศการผลิตคราฟเบียร์ไม่จำเป็นต้องมีกระบวนการนี้ สามารถบรรจุเบียร์ลงกระป๋องจำหน่ายได้ตามปกติ
     

          นอกจากนี้ กลุ่มผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากกฎกระทรวงยังมีร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สมาชิกของสมาคมได้ร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ เจตนารมณ์ของร่างกฎหมายกำหนดให้เป็นการลดอุปสรรค และส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ข้อความในร่างกฎหมายระบุว่าการผลิตสุราต้องคำนึงมาตรฐาน ที่ไม่เป็นภาระต่อผู้ผลิต หรือสร้างการผูกขาดสร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แต่การที่ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พาสเจอร์ไรส์เบียร์ก่อนบรรจุกระป๋อง ผู้ที่จะทำได้จะต้องเป็นโรงงานที่มีขนาดเครื่องจักรเกิน  50 แรงม้า กลายเป็นการผูกขาดตลาดให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าร่างกฎกระทรวงไม่มีข้อกำหนดนี้กับสุราชนิดอื่น มีเพียงเบียร์ที่ถูกกำหนดเป็นพิเศษ จึงขอให้มีการปรับร่างกฎกระทรวง เพื่อผลิตเบียร์และสร้างโอกาสการแข่งขันได้เช่นเดียวกับโรงผลิตสุราชนิดอื่น 
นายเท่าพิภพ กล่าวภายหลังการให้ข้อมูลของผู้ร้องเรียนว่า ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวขัดกับะจุดประสงค์ของการออกกฎหมาย จึงจะเสนอต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจใช้กลไกกรรมาธิการในการตรวจสอบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎกระทรวงที่สร้างมาตรการที่ไม่จำเป็นต่อผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย 


อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ