12 มิ.ย. 68 - รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง นำคณะผู้แทนรัฐสภา ศึกษาระบบ Vision Zero ขององค์การคมนาคมเพื่อลอนดอน สหราชอาณาจักร หลังประสบความสำเร็จด้านการลดอุบัติเหตุ หวังเป็นแนวทางประยุกต์ใช้กับระบบจราจรไทย เกิดการปฏิรูปความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน

image

            นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ศึกษาดูงาน ณ องค์กรการคมนาคมเพื่อลอนดอน สหราชอาณาจักร (Transport for London : TfL)  เพื่อศึกษาการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนของ TfL และการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศทั้งสอง ระหว่างวันที่ 8 - 15 มิถุนายน 2568
            สำหรับองค์กรการคมนาคมเพื่อลอนดอน สหราชอาณาจักร TfL มีนโยบายหลัก ในการลดอันตรายบนท้องถนน และสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ถนนให้กับประชาชนทั้งในส่วนของผู้ขับขี่ยานพาหนะ ผู้โดยสารและผู้เดินเท้า มีหัวใจการทำงานในการลดอันตรายและความสูญเสียบนท้องถนนของนครลอนดอน กำหนดวิสัยทัศน์ Vision Zero ทำให้ถนนในลอนดอนเป็นที่สำหรับการขับขี่จักรยานทุกประเภท และเป็นทางปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า  โดยมีระบบความปลอดภัยหรือที่เรียกว่า Safe System ขึ้นมารองรับ ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ความเร็วที่ปลอดภัย ถนนที่ปลอดภัย ยานพาหนะที่ปลอดภัย การขับขี่ที่ปลอดภัย และการเรียนรู้หลังเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน และจากการดำเนินการดังกล่าว นับตั้งแต่ปี 2024 จำนวนคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดน้อยลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงระหว่างปี 2010 - 2023 ที่ยังไม่ได้มีการใช้ Safe System 
            ทั้งนี้ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากที่สุดในนครลอนดอน เกิดจากรถยนต์ คิดเป็นร้อยละ 77 ซึ่งการตั้ง Vision Zero เป็นความพยายามที่จะลดการสูญเสียจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการใช้ถนนให้เป็นศูนย์ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง นอกจาก Vision นี้จะช่วยลดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีผลดีคือ เกิดมลพิษทางอากาศน้อยในระดับที่ปลอดภัย เด็กๆได้รับความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น ผู้คนสามารถเดินหรือขี่จักรยานบนท้องถนนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เสียงรบกวนบนถนนต่าง ๆ อันเป็นมลพิษทางเสียงลดน้อยลง นอกจากนี้ พฤติกรรมการขับขี่ของคนจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่อันตรายบนท้องถนนอันเกิดจากยานพาหนะได้มีการเปลี่ยนแปลง เห็นได้จากตั้งแต่ปี 2020 ที่มีการระบาดของโควิด-19 มีการใช้ยานพาหนะส่งอาหารและพัสดุเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับลักษณะของยานพาหนะที่ได้เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน มีการใช้รถขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากขึ้น รวมถึงมีการใช้จักรยานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยใช้แค่จักรยานธรรมดา สำหรับการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร ได้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย โดยพยายามลดสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย การใช้กล้องมองข้างที่มีมุมมองดีกว่าสำหรับคนขับแทนกระจกมองข้างแบบเก่า การใช้เซ็นเซอร์ที่ส่งสัญญาณเสียงเพื่อให้คนเดินถนนรู้ตัว และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อเข้าใกล้รถใหญ่ ตลอดจนการเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างให้กับคนขับ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการลดความอุบัติเหตุทางถนนคือ การเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า Road Safety Data ซึ่งในการใช้ถนนของนครลอนดอน TfL ได้ให้ความสำคัญกับการใช้รถบัสโดยสารเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของรถบัสขึ้นมา ประกอบด้วย Safety Policy และ Vision Zero โดยกำหนดเป้าหมาย จะไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในอุบัติเหตุทางถนนของนครลอนดอน ภายในปี 2041 และจะไม่มีใครเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบัสภายในปี 2030 การวิจัยและหลักฐานสนับสนุน โดยเปรียบเทียบอุบัติเหตุบนท้องถนนของนครลอนดอนกับเขตอื่น พบว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนของนครลอนดอนต่ำกว่าเขตอื่นอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ 
            สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยของรถบัสของ TfL ประกอบด้วย การช่วยเหลือผู้ขับขี่ การช่วยเหลือคู่กรณีหรือผู้สัญจรทางถนน และการคุ้มครองผู้ที่สัญจรทางถนนที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุของรถบัส ส่วนมาตรการต่อไปในอนาคต ประกอบด้วย การดูแลสุขภาพของผู้ขับขี่ ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ขับขี่ การออกแบบรถบัสให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ในส่วนของการจำกัดความเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดการบาดเจ็บและความสูญเสียบนท้องถนน ซึ่งมีข้อสรุปว่า ในเมืองจะอนุญาตให้รถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 20 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากผลการศึกษาพบว่าหากขับรถเร็วกว่านี้คนขับจะมีเวลาน้อยลงในการตัดสินใจเพื่อหลบหลีกการชน หากใช้ความเร็วที่เกินกว่านี้ จะมีอันตรายเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การใช้ความเร็วที่ไม่เกิน 20 ไมล์ต่อชั่วโมง สามารถลดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตถึงร้อยละ 40 
            สำหรับโครงการที่จะขับเคลื่อนไปสู่ Vision Zero ประกอบด้วย การลดปริมาณการจราจรบนถนน การทำให้ถนนของนครลอนดอนมีความปลอดภัยมากขึ้น การทำให้ทางข้ามถนนหรือทางม้าลายมีความปลอดภัยมากขึ้น การควบคุมความเร็ว และการทำทางแยกให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จาก TfL ได้นำคณะไปศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของการคมนาคมในกรุงลอนดอน ได้แก่ รถโดยสารประจำทางที่มีมาตรฐานความปลอดภัย และการจัดการจราจรทางถนนเพื่อลดอุบัติเหตุและลดการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การดำเนินงานของ TfL จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการวางแผนทางด้านความปลอดภัยบนท้องถนนที่ให้ความสำคัญกับ สุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งหากเป้าหมาย Vision Zero บรรลุผลสำเร็จ นครลอนดอนจะไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะและมีความปลอดภัยสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยปราศจากอุบัติภัยบนท้องถนนที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต  

สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ