14 มิ.ย.68-สว. พบประชาชนภาคตะวันออก ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ติดตามปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่ทำกิน แนะหน่วยงานในพื้นที่ควรบรรจุเรื่องการขอจัดซื้อโดรนสำหรับอาสาสมัครไว้ในแผนแม่บทระดับจังหวัด พร้อมปลูกป่าให้ช้างป่ามีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ เพื่อไม่ต้องออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

image

        นางกานต์เปรมปรีด์  ชิตานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคตะวันออก ลงพื้นที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ชุดอาสาเฝ้าระวังช้างป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล

        นางกานต์เปรมปรีด์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาช้างป่าในอำเภอมะขามยังคงน่ากังวล โดยปี 2568 มีการตรวจพบช้างป่าสูงสุดถึง 20 ตัว และเกิดความเสียหายจากช้างป่า 20 ครั้ง ทางอำเภอได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยการ จัดอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และ จัดตั้งชุดสมาชิกอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าจำนวน 8 ชุด ครอบคลุม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลปัถวี ตำบลฉมัน และตำบลวังแซ้ม พร้อมทั้งมี กองทุนสนับสนุนตำบลที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ตำบลละ 10,000 บาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และของบริโภค โดยใช้งบบูรณาการของอำเภอ สำหรับ โครงการ "ช้างอิ่มท้อง พี่น้องมะขามอิ่มใจ" โมเดลแก้ปัญหาแบบยั่งยืน ที่มุ่งเน้นการสร้างแหล่งอาหารในป่า เพื่อดึงช้างป่าให้อยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ ลดการออกมาหากินในชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน โดยมีการปลูกพืชอาหารช้าง สร้างแนวกันช้าง สร้างโป่งดิน และพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด "Makham Safari" เพื่อสร้างรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน

        นางกานต์เปรมปรีด์ กล่าวด้วยว่า ตัวแทนอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าได้นำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำถึง ปัญหาขาดแคลนแหล่งอาหารบนเขาที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช้างป่าออกมาบุกรุกพื้นที่ทำกินของประชาชน จึงเสนอให้ โปรยเมล็ดพันธุ์พืชในป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ และขอให้มีการ จัดหาโดรนตรวจจับความร้อนให้กับชุดอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าให้ครบทุกชุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

        นางกานต์เปรมปรีด์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะของคณะ สว.พบประชาชน ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบรรจุเรื่องการขอจัดซื้อโดรนสำหรับอาสาสมัครไว้ในแผนแม่บทระดับจังหวัด และพิจารณา จัดทำโครงการขอเพิ่มชุดสมาชิกอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าเนื่องจากโดรน 8 ชุดในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการ ร่วมกันปกป้องผืนป่า ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และช่วยกันปลูกป่า เพื่อให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ และช้างป่ามีแหล่งอาหารเพียงพอ ไม่ต้องออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้ คณะ สว.พบประชาชน จะนำข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดไปประกอบการพิจารณาดำเนินการภายใต้บทบาทหน้าที่ของวุฒิสภาต่อไป เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืนต่อไป

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ