นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ แถลงภายหลังการประชุมถึงปัญหาการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2567 และแรงงานข้ามชาติที่ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต การรักษาผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงของประเทศ ซึ่งคณะ กมธ. เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมการจัดหางาน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ นางนิลุบล พงษ์พยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างชาติ พบว่าเรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับแรงงานถูกกฎหมาย 4 สัญชาติ เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมจำนวนประมาณ 2.3 ล้านคนในประเทศไทย และในการจัดการกับแรงงานจำนวนมากนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับนายจ้าง คณะกมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนถึงกรณีการบริหารจัดการแรงงานกลุ่มดังกล่าวอาจเชื่อมโยงถึงเรื่องบัญชีม้า ข้อมูลส่วนบุคคลของนายจ้าง ที่ไม่สามารถทราบได้ว่าประเทศต้นสังกัดของแรงงานต่างชาติมีวิธีจัดการกับข้อมูลของนายจ้างอย่างไร จึงมีความกังวลว่าข้อมูลอาจตกไปอยู่ในมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกทั้งการจัดขึ้นทะเบียนแรงงานอาจต้องผ่านกระบวนการของประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศต้นทางของแรงงานก่อน
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวต่อไปว่าแม้การขึ้นทะเบียนแรงงานจะมีการใช้ระบบออนไลน์เข้าช่วย แต่กระบวนการที่ต้องได้รับการอนุมัติรายชื่อแรงงานจากประเทศต้นทาง ทำให้มีข้อร้องเรียนว่าอาจมีการจ่ายส่วยผ่านบัญชีม้า รวมถึงข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งกระทรวงแรงงานจะต้องหาแนวทางแก้ไขช่องว่างที่อาจมีผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์และก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการต่อใบอนุญาตอีกมาก อาทิ ค่าบริการจัดทำใบอนุญาตจากบริษัทเอกชน และค่าการทำสัญญา ซึ่งเมื่อรวบรวมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องแล้วหากไม่เร่งดำเนินการแก้ไขอาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยสูงถึง 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ย้ำว่ากรณีดังกล่าวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมากจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการป้องกันเกี่ยวการคอร์รัปชัน และกระทรวงแรงงานควรพิจารณาว่าสามารถลดขั้นตอนใดลงได้บ้าง เนื่องจากกระทรวงแรงงานมีข้อมูลของแรงงานต่างชาติจากการขึ้นทะเบียนแรงงานอยู่แล้ว จึงควรทบทวนประเด็นความซับซ้อนต่อการบริหารจัดการแรงงานดังกล่าว
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง