นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกระทู้ถามสดถึงนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า หากดูการกระทำที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จนถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีการผ่านมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) จำนวน 24 ครั้ง ออกข้อสั่งการ 43 ครั้ง มีการให้ข่าวว่าจะจัดการกับปัญหาเรื่องฝุ่น 71 ครั้ง แต่ผลดำเนินการทุกครั้งที่ผ่านมา ผลลัพธ์กลับตกเป้า ไม่บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปี 2567จะต้องลดพื้นที่การเผาลง 50% ซึ่งปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้หนักหน่วงขึ้น ตนทราบดีว่ารัฐบาลทราบปัญหาฝุ่นเป็นอย่างดีทั้งปัญหาฝุ่นข้ามพรมแดน ฝุ่นในไร่นา ฝุ่นในป่า และฝุ่นในเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจโดยตรง
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน 620 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ยังมีคำถาม ซึ่งตนทราบดีว่ารัฐบาลมุ่งเน้นพื้นที่เสี่ยงเผาไหม้ขนาดใหญ่ 14 กลุ่มป่า ที่มีแนวโน้มเกิดไฟป่ามากที่สุด จึงอยากทราบว่า ในพื้นที่นอกเขต 14 กลุ่มป่า รัฐบาลจะจัดการไฟป่าอย่างไร ขณะที่การจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาพบว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณปีต่อปี และอยู่ที่ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีต่อการจัดสรรงบกลางเพื่อแก้ปัญหา จึงต้องการทราบว่ารัฐบาลมีแนวโน้มในการออกข้อสั่งการหรือบอกให้สำนักงบประมาณให้จัดสรรงบประมาณแบบปีต่อปีเป็นงบประจำให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่ เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอในการจัดการไฟป่า และรัฐบาลมีความพร้อมเพียงใดในการแปลผลภาพจากดาวเทียมเพื่อติดตามดูการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตร หลังทราบว่ามีปัญหาการแปลผลทางเทคนิคที่ยังไม่สามารถเอาภาพถ่ายทางดาวเทียมที่เป็นรอยเผาไหม้มาใช้ในการวิเคราะห์ได้ จึงขอทราบความชัดเจนว่าเรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างไร
ด้านนายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ย้ำว่ารัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกครั้งได้มีการยกประเด็นดังกล่าวและมีข้อสั่งการมาโดยตลอด ยืนยันว่าหลายข้อสั่งการบรรลุเป้าหมาย รัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง 600 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหา ขณะที่การแก้ปัญหาฝุ่นขนาดเล็กนั้นมีนโยบายบูรณาการหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม ห้ามรับซื้ออ้อยที่เผาเกิน 25% ทำให้ลดลงเหลือ 11% นอกจากนี้ยังมีมาตรการเข้มงวด อาทิ การปิดโรงงานเขตจังหวัดภาคอีสาน ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งดเว้นสิทธิและตัดสิทธิเกษตรกรที่เผาไร่ เผานา สำหรับการดำเนินการระยะถัดไป กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกับกรมป่าไม้ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการจัดทำแผนป้องกันไฟป่าให้มีประสิทธิภาพจากการบูรณาการหลายหน่วยงาน ส่วนการแก้ปัญหาการจัดการไฟป่าอย่างยั่งยืน ได้มีแนวทางในการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนสำหรับภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดชุดเฝ้าระวังโดยอาศัยคนในท้องถิ่นช่วยเป็นหูเป็นตา ตลอดจนการลาดตระเวนพื้นที่ที่มีความเสี่ยง การจัดโครงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับไฟป่าข้ามพรมแดน 17 จังหวัดเขตภาคเหนือ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้นโยบายในฐานะที่กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายเรื่อง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งจัดทำแผนดำเนินงานการป้องกันแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง บรรจุโครงการที่เกี่ยวเนื่องในแผนพัฒนาท้องถิ่นเพื่อตั้งงบประมาณ และให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ตระหนักถึงสถานการณ์และอันตรายของฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดขึ้น
นายประเสริฐ ยังชี้แจงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อการกระจายอำนาจ ว่าพรรคให้ความสำคัญต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น อาจรู้สึกว่ากฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอไม่ได้รับการตอบรับในสภา แต่มีหลายเรื่องที่กฎหมายที่หลายพรรคเสนอได้รับการตอบรับจากสภา แต่การผ่านกฎหมายแต่ละฉบับนั้นมีความละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของสภาและเกี่ยวกับหลายพรรคการเมืองที่ต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้รัฐบาลจะพิจารณาหากเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง