สส.ศศินันท์ ปชน. ชี้สังคมคาใจ ปมอบรมอาสาตำรวจจีน รอความจริงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

          นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เปิดเผยถึงกรณีการอบรมอาสาตำรวจคนจีน ซึ่งมีชื่อหน่วยงานปรากฏ คือ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และมหาวิทยาลัยสยาม โดยสังคมตั้งข้อสงสัยว่าเงินค่าอบรมคนละ 38,000 บาทไปอยู่ที่ใคร และการแจกอุปกรณ์ เสื้อ หมวก บัตร และประกาศนียบัตร ที่มีเครื่องหมายตำรวจและตราแผ่นดินให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม ทำได้หรือไม่ซึ่งทั้งหน่วยงานตำรวจและมหาวิทยาลัย ออกมาชี้แจงไม่ตรงกัน ส่วนตำรวจอ้างว่าการอบรมครั้งนี้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายให้แก่ชาวต่างชาติ ซึ่งมหาวิทยาลัยสยามขอความอนุเคราะห์วิทยากรจากทาง บก.น.3 ซึ่งได้ส่งวิทยากรไปให้การอบรมตามที่ร้องขอ ส่วนเรื่องของการเก็บค่าอบรมนั้นทางตำรวจไม่ทราบ และการเอาเครื่องหมายและสัญลักษณ์ตราแผ่นดินมาแจกให้ผู้เข้าร่วมอบรม ทางตำรวจก็ไม่ทราบและกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ขณะที่ในส่วนของมหาวิทยาลัยสยาม ชี้แจงว่าบุคคลที่มีการอ้างว่าเป็นเจ้าของโครงการจากทางฝั่งมหาวิทยาลัยสยาม คือ ดร.ลี่จาง ตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติ เป็นตำแหน่งที่ไม่มีจริง และเอกสารที่ปรากฏก็ใช้คำว่า มหาลัยสยาม ซึ่งไม่ใช่ชื่อที่ถูกต้อง แสดงว่าหนังสือไม่ได้ออกโดยมหาวิทยาลัย
          นางสาวศศินันท์ ระบุว่า การชี้แจงดังกล่าวทำให้เห็นความลึกลับซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงข้อกังวลของสังคมก็เกิดมากขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นความน่ากังวลอย่างยิ่ง ว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของผลประโยชน์และการหาเงินเข้ากระเป๋าของใครโดยไม่สมควรหรือไม่ และกระบวนการในการนำเครื่องหมายและสัญลักษณ์มาใช้ต้องขออนุญาตสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งหากมีการขออนุญาตใช้จริง ตร. ก็ต้องรับรู้ และอนุญาตไปได้อย่างไร หรือเป็นการนำสัญลักษณ์และเครื่องหมายมาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาต
          นางสาวศศินันท์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะไขปมของเรื่องนี้ได้ คือ การตามหาผู้เข้าร่วมอบรมทั้ง 30 คน ว่ามีใครบ้าง มีการจ่ายเงินอบรมไปให้ใคร สิ่งนี้จะนำไปสู่คำตอบที่ว่ากระบวนการอบรมทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของการหาผลประโยชน์ของใคร สรุปแล้วว่าใครเป็นเจ้าของโครงการ ตำรวจหรือมหาวิทยาลัย และที่สำคัญ คือ การนำตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของตำรวจมาใช้ในอุปกรณ์ที่มีการแจกให้ผู้เข้าอบรม ใครเป็นคนดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่สังคมกำลังรอคอยคำตอบจากกระบวนการตรวจสอบจาก ตร. ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะคลี่คลายไขคำตอบและคลายความกังวลให้กับสังคมได้

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
แฟ้มภาพ