การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม นายสากล ภูลศิริกุล สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับโครงการเรียนดี เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้มีโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน(โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ) โดยรัฐให้การสนับสนุน 5 ด้าน ได้แก่ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาโครงการดังกล่าวแล้ว พบว่ากลับทำให้เด็กบางคนที่ต้องการโอกาสทางการศึกษา ยังไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งนักเรียนมักมีฐานะยากจน อาทิ เรื่องอาหารกลางวัน ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณต่อคนต่อวันในอัตราต่ำ โดยต่ำสุดอยู่ที่ 22 บาท/คน/วัน นอกจากนี้ ยังพบว่าการแจกเงินอุดหนุนให้ผู้ปกครองซื้ออุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียนนั้น ในความเป็นจริง ผู้ปกครองไม่สามารถหาซื้อได้ในหมู่บ้านได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อชุดและอุปกรณ์การเรียน ในร้านค้าขนาดใหญ่หรือห้างสรรพสินค้า จึงเป็นภาระอย่างมาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายการเดินทางยังเกือบเท่ากับเงินที่ได้รับจัดสรรค่าอุปกรณ์การเรียนและค่าเครื่องแบบนักเรียนด้วย ดังนั้น ตนมองว่าควรให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เป็นผู้จัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน โดยใช้วิธีจัดซื้อแบบประกวดราคา เพื่อควบคุมการจัดซื้อให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น จึงขอถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า มีนโยบายอย่างไรในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งเรื่องงบอาหารกลางวันเด็ก จะสามารถปรับขึ้นเพื่อโภชนาการที่ดีได้หรือไม่ และจะแก้ไขปัญหาเงินอุดหนุนค่าเครื่องแบบนักเรียน ตลอดจนอุปกรณ์การเรียนที่ไม่เพียงพอ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
ด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ตอบกระทู้แทนชี้แจงว่า เรื่องการจัดสรรเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนั้น ยอมรับว่าเป็นอัตราที่ต่ำในยุคปัจจุบันที่ข้าวของแพงขึ้น เป็นอัตราที่ได้ขอปรับเมื่อปี 2565 อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดีของเด็ก แต่ในการขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันต้องทำเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ขอมติ ครม.ในการอนุมัติปรับเพิ่มเงินอุดหนุนฯ ซึ่งล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการได้ทำเรื่องผ่านกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เด็กได้รับเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงศึกษาธิการจะหาอัตราที่เหมาะสมสำหรับค่าอาหารกลางวันเด็กเพื่อนำเสนอต่อไป ส่วนเรื่องเงินอุดหนุนให้ผู้ปกครองซื้ออุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียนที่ไม่เพียงพอนั้น ขณะนี้ ทางกระทรวงฯ ได้ออกระเบียบเกี่ยวกับการผ่อนผันการแต่งกายชุดนักเรียน โดยไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักเรียนทุกวัน แต่ให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการสถานศึกษาว่าจะให้แต่งกายอย่างไร ตามความเหมาะสมและบริบทของพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระและให้การศึกษาไม่ยึดติดกับชุดนักเรียน แต่ทำให้เด็กสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการได้ผลักดันโครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime ส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานผ่านการนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชน ในการใช้เทคโนโลยีเท่าทันโลกแห่งความผันผวน ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการและมีความชัดเจนในปีงบประมาณ 2568
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง