นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. พรรคประชาชน เดินทางไปยังสำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามความพร้อมในการจดทะเบียนสมรสให้กับบุคลคลตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันแรก ในวันที่ 23 มกราคม นี้
นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก และนางกตชกร เพียรประเสริฐกุล หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตบางรัก กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมเป็นพิเศษ โดยสำนักงานเขตบางรักและเขตปทุมวันจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 16.00 น. พร้อมประสานความร่วมมือจากภาคเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรม
ขณะที่นายธัญวัจน์ ในฐานะผู้ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสำคัญในระบบทะเบียนสมรสตามกฎหมายฉบับนี้ จะมีการปรับรูปแบบ ตัดคำว่า “สามี” หรือ “ภรรยา” ออก และเปลี่ยนมาใช้คำว่า “คู่สมรสบุคคลที่” เพื่อสะท้อนถึงความเท่าเทียมและครอบคลุมทุกเพศสภาพ ทั้งนี้ กรมการปกครอง จะเริ่มประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม นี้ เป็นต้นไป
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส บุคคลสัญชาติไทย ต้องเตรียมบัตรประจำตัวประชาชน ขณะที่คู่สมรสชาวต่างชาติ ต้องมีเอกสารรับรองสถานภาพการสมรสจากสถานทูตของตน ซึ่งต้องผ่านการแปลและรับรองความถูกต้องก่อนนำมายื่นที่สำนักงานเขต
นายธัญวัจน์ ยังกล่าวถึงความคุ้มครองตามกฎหมายฉบับนี้ด้วยว่า การสมรสระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติในประเทศไทยจะได้รับการคุ้มครองสถานะสมรสในประเทศ และในกรณีที่ประเทศของคู่สมรสต่างชาติมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม การสมรสก็จะได้รับการยอมรับในประเทศนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม หากประเทศของคู่สมรสชาวต่างชาติยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม การคุ้มครองจะมีผลเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 23 มกราคม นี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากคู่รักจำนวนมาก ทั้งคู่สมรสคนไทยและคู่สมรสต่างชาติ โดยนายธัญวัจน์และ สส. พรรคประชาชน จะเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับคู่สมรสในวันดังกล่าวด้วย
นายธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย แสดงถึงความก้าวหน้าของสิทธิความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง