นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีโรงงานเหล็กที่ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เกิดเหตุถังแก็สระเบิดก่อให้เกิดไฟไหม้ ว่าสำหรับโรงงานนี้มีจำนวน 2 แห่ง โดยก่อนหน้านี้โรงงานอีกแห่งหนึ่งเกิดเหตุเครนถล่มจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง กวดขันและตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะอนุญาตให้โรงงานดำเนินการต่อ เนื่องจากกรรมาธิการเห็นข้อบกพร่องจากการตรวจสอบหลายจุด ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยได้ นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการดำเนินคดีกรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุเครนถล่ม และอีกหลายกรณีอย่างใกล้ชิด เช่น การต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นต้น ความบกพร่องของโรงงานนี้ตั้งแต่เกิดเหตุเครนถล่มยังไม่สิ้นข้อสงสัย แล้วยังเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ขึ้นอีก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้โรงงานดังกล่าวหยุดดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการใช้ความเด็ดขาดกับผู้ประกอบการที่ขาดความระมัดระวัง เกิดเหตุซ้ำซาก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง
นายอัครเดช กล่าวว่าคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ยังมีข้อเสนอแนะกรณีโรงงานหรือผู้ประกอบการที่ขาดความรับผิดชอบ ละเมิดต่อกฎหมายอย่างซ้ำซาก จะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงและเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบการรายอื่น สำหรับกรณีนี้กรรมาธิการจะเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสอบถามโดยละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยปละละเลยกระทั่งเกิดเหตุร้ายซ้ำอีกครั้งในโรงงาน ซึ่งมีเจ้าของหรือผู้บริหารเดียวกันหรือมีความเกี่ยวข้องกันนอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ยังได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับโรงงานดังกล่าวอีกหลายเรื่อง เช่น การใช้แรงงานต่างด้าวที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ความถูกต้องของการขออนุญาต และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนเปิดประกอบการ รวมถึงข้อร้องเรียนการจัดการกากอุตสาหกรรม ซึ่งคณะกรรมาธิการจะเชิญหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาประชุมร่วมกับกรรมาธิการ เพื่อเร่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว
ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง