โดย
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่ามีโอกาสจะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่ไม่ทันอายุรัฐสภาชุดนี้ ซึ่งจะได้มาเพียงสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ ส่วนเรื่องโอกาสที่จะลดจำนวนการทำประชามติจาก 3 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง นั้น ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะสมาชิกรัฐสภาเกรงว่าจะไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่การทำประชามติครั้งแรกคาดว่าประมาณปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569
นายนิกร อธิบายไทม์ไลน์ว่า หากจะให้มี สสร. ได้ทันในสมัยรัฐสภาชุดนี้ คือ จะต้องยื่นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 ภายในเดือนมกราคม และต้องผ่านทั้ง 2 สภา ในเดือนมีนาคม ส่วนกระบวนการเลือก สสร. คาดว่าจะใช้เวลา 80-90 วัน ก่อนเสนอเข้าสู่สภาอีกครั้ง ซึ่งสมัยประชุมจะปิดวันที่ 10 เมษายน 2570 แต่หากครั้งแรกไม่ผ่าน ไม่สามารถดำเนินการได้ในต้นปี 2570 เนื่องจากติดปัญหาวุฒิสภาไม่เห็นด้วยก็จะเข้าสู่สมัยประชุมครั้งที่สอง ซึ่งเป็นสมัยสุดท้าย และจะไม่ทันตั้ง สสร. ดังนั้น ส่วนตัวจึงเห็นว่าเมื่อมีโอกาสเดียว พรรคร่วมรัฐบาลควรจะร่วมกันเสนอร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 เพียงฉบับเดียว เพื่อนำไปสู่การตั้ง สสร. เพราะจะได้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และมีทางเดียวที่จะผ่าน หากต่างพรรคต่างยื่น ไม่เชื่อว่าจะผ่านได้
นายนิกร ยังระบุว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาชนที่ยังค้างอยู่ในสภาฯ ส่วนตัวมีความกังวล ว่ามาตรา 256 ที่เสนอแก้ไข ไม่มี สสร. โดยเฉพาะมาตรา 256 (8) ที่มีประเด็นว่าหากจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องทำประชามติอยู่ในนั้นด้วย แต่มาตราดังกล่าว นำหมวดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์และรัฐออกไป คือ ไม่ต้องทำประชามติ จุดนี้จะมีปัญหา ส่วนตัวเชื่อว่าวุฒิสภาจะไม่เห็นด้วย แต่ร่างนี้อาจจะเข้าสู่การพิจารณาได้ ทั้งนี้ หากจะมีการยกร่างใหม่ ที่มี สสร.ไม่เชื่อว่าจะเข้าสภาฯ ตอนนี้ได้ ต้องรอให้การทำประชามติเสร็จเสียก่อน
ส่วนจะมีการหารือกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตนเองได้เสนอเรื่องนี้ในวันรัฐธรรมนูญ และขอย้ำว่ามีโอกาสเดียวแล้วที่จะทำได้ตามนโยบายของรัฐบาล นั่นคือพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันเสนอร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 ให้มี สสร. เหมือนครั้งที่มีการแก้ไขบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ดังนั้น จำเป็นต้องใช้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ทุกพรรคที่ไปประกาศนโยบายว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และจะเป็นผลงานสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ คือ ให้มี สสร. และบอกประชาชนให้ชัดว่าทำทั้งฉบับไม่ทัน แต่การมี สสร. ก็ถือว่าได้ทำอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว
นายนิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมีความตั้งใจจะแก้รัฐธรรมนูญมานาน โดยพรรคร่วมรัฐบาลต้องมาร่วมกัน ต้องคุยกันว่าแต่ละพรรคต้องการแค่ไหน แต่จะให้เป็นความคิดของสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวไม่ได้ จะต้องอาศัยเสียงจากวุฒิสภาด้วย ซึ่งจะต้องหารือกัน และหากไม่มีร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตัวเชื่อว่ายาก เพราะจะมีประเด็นที่แตกออกไปอีกมาก รัฐธรรมนูญไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
