โดย
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีมณฑลทหารบกที่ 26 ได้ดำเนินการก่อสร้างในที่ดินของนายตุ่น ศิลาเกิด ตามเอกสาร สค.1 เลขที่ 23 หมู่ 13 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยในหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ฉบับที่ 4130/2515 ระบุให้มณฑลทหารบกที่ 26 หรือเดิม คือ จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ก่อสร้างบนที่ดินบ้านโคกเขา ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย มณฑลทหารบกที่ 26 กรมที่ดิน กรมทางหลวง และกรมโยธาธิการและผังเมือง ตลอดจนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ มาให้ข้อมูล และมีนายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย
โดยก่อนการประชุม นายวิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลนั้น เป็นความพยายามของคณะกรรมาธิการฯ ที่จะหาข้อสรุปให้ได้มากที่สุด แต่หากไม่ได้ข้อสรุปอย่างไรก็เชื่อว่าคงจะได้ข้อเท็จจริงบางอย่าง โดยตั้งใจว่าจะส่งข้อมูลต่อไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาส่งต่อไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และอาจจะต้องให้เบาะแสกับ ป.ป.ช. ให้จับตากรณีนี้ว่าหน่วยงานราชการอาจจะมีพฤติกรรมและพฤติการณ์เข้าข่ายการละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากสร้างผิดจุดถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพื้นที่ตรงนี้มีการสงวนไว้เป็นบ่อหินใกล้รางรถไฟ
ขณะที่การประชุมคณะกรรมาธิการฯ เริ่มต้นพิจารณาการถือครองที่ดิน ตั้งแต่ปี 2455 ซึ่งเป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ 26 ในปัจจุบัน โดยผู้ร้องเรียน ระบุว่า มีการถือครองที่ดินมาก่อนตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยมี สค.1 จนถึงปี 2521 ทหารเข้ามาก่อสร้างค่ายทับที่ดิน และฟ้องขับไล่ตนออกจากพื้นที่ในปี 2524 โดยได้ร้องเรียนไปยัง สส. ในพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ อีกทั้งปัญหาที่ดินดังกล่าวก็มีความไม่ชัดเจนมาโดยตลอด กระทั่งต้องมาร้องเรียนผ่านทางคณะกรรมาธิการฯ
ด้านพันเอก ปิยะวัติ ราชวงศ์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ชี้แจงถึงการได้มาของที่ดินดังกล่าวว่า เมื่อปี 2521 จังหวัดทหารบกสุรินทร์ (ส่วนแยกบุรีรัมย์) หรือ จทบ.ส.ร. ได้ขออนุญาตจังหวัดบุรีรัมย์ สร้างค่ายทหารชื่อกองพันทหารราบเบาในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีการแสดงหลักฐานการได้มาของที่ดิน ก่อนออกเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) พื้นที่สาธารณประโยชน์ 200 ไร่ บริเวณด้านซ้ายของถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 7/700-8/340 และต่อมา จทบ.ส.ร. ได้ทำการขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์เพิ่มเติมอีก 200 ไร่ บริเวณด้านหลังเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของหน่วยกองพันทหารราบ ซึ่งนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์เรียกประชุมสภาตำบลและราษฎร ที่เคยใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ ทำเลเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาและรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการขอใช้ที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าว ปรากฏว่า สภาตำบลและราษฎรในเขตท้องไม่ขัดข้องและไม่ทับที่ดินของราษฎร อีกทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งว่าไม่ขัดข้อง จึงยืนยันว่าการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารการขอใช้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ยังได้มีการซักถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในอีกหลายประเด็น เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาหาข้อเท็จจริงตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
ประมวลผลภาพ
