28 พ.ย. 67 - คณะอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินชุมชน สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังถูกหลอกฝากเงินในธนาคารหมู่บ้าน สูญเงินกว่า 500 ล้านบาท ด้านอนุ กมธ.ย้ำ ติดตามเรื่องถึงที่สุด สร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน 

image

            นางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินชุมชน ในคณะ กมธ. แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ สส.พิษณุโลก พรรคประชาชน (ปชน.) และรองอนุ กมธ. รับหนังสือจากประชาชนผู้เสียหายจากการฝากเงินในธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ อ .นครไทย จ.พิษณุโลก โดยขอให้ตรวจสอบและเยียวยาปัญหาการฝากเงินในธนาคารหมู่บ้านเนื่องจากสมาชิกธนาคารไม่ได้รับดอกเบี้ย เงินปันผล และไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ โดยมาทราบภายหลังว่าธนาคารดังกล่าวไม่ได้ถูกจัดตั้งตามกฎหมาย และไม่ได้มีพันธกิจแบบธนาคาร ทั้งนี้ในพื้นที่อำเภอนครไทยมีธนาคารลักษณะนี้มากถึง 10 แห่ง มีสมาชิกกว่า 8,000 คน ขณะนี้ประชาชนที่เป็นสมาชิกได้รับความเสียหายมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ที่ผ่านมาได้มีการร้องทุกข์ผ่านคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมตำบล และได้นำเรื่องร้องเรียนต่อไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กองบังคับการปราบปราม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักนายกรัฐมนตรี มาแล้ว มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วบางส่วน ไปยังพบว่ามีอีกหลายแห่งที่ยังไม่ถูกจับกุม จึงขอให้คณะ อนุ กมธ. ได้พิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว

           นางสว่างจิตต์ กล่าวว่าภารกิจของคณะอนุ กมธ. คือการพิจารณาศึกษาสถาบันการเงินชุมชนให้มีความครอบคลุม มั่นคง และเป็นที่พึ่งของประชาชนเพื่อลดปัญหาหนี้นอกระบบ โดยกรณีที่เกิดขึ้นกับชาวอำเภอนครไทย ถือเป็นกรณีเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขซึ่งคณะอนุ กมธ. จะใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรเร่งรัดให้มีการอายัดทรัพย์ของผู้ที่ก่อความเสียหายมาชดใช้ให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายทุกคน ขณะเดียวกันนโยบายธนาคารชุมชนเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสนใจ ที่จะดำเนินการให้เกิดขึ้นในทุกชุมชน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดกรณีในลักษณะนี้ขึ้นขอให้รัฐบาลศึกษาข้อกฎหมาย และควรมีการตรวจสอบและระบบป้องกันที่รัดกุมไม่ให้เกิดการหลอกลวงประชาชนได้

          ด้านนายศุภปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากคณะอนุ กมธ. จะดำเนินการติดตามกรณีดังกล่าวแล้ว จะยังติดตามธนาคารชุมชนในลักษณะนี้ในทั่วประเทศโดยมุ่งไปที่การจดจัดตั้งว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ นอกจากนี้จากกรณีที่เกิดขึ้นคณะอนุ กมธ. จะติดตามอย่างถึงที่สุด แม้ว่าขณะนี้บางส่วนอยู่ในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังมีข้อกังวลต่อการตั้งข้อกล่าวหาว่ามีความครอบคลุมหรือไม่ ตลอดจนการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังญาติพี่น้องของผู้กระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นหวั่นว่าประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ