22 พ.ย. 67 - สส.จาตุรนต์ ในฐานะกรรมาธิการร่วมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ย้ำ การได้เสียง สว. เกินกว่า 1 ใน 3 มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญคือสิ่งสำคัญมาก พร้อมมองมติของคณะกรรมาธิการร่วมฯ ให้ใช้เกณฑ์ประชามติเสียงข้างมาก 2 ชั้นตามร่าง สว. ส่งผลการแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้นยาก

image

           นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงมติเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมาธิการ ให้คงไว้ตามที่วุฒิสภาแก้ไข คือใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าเมื่อส่งกลับไปให้แต่ละสภาพิจารณา ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรจะไม่เห็นด้วยจนมีผลให้ต้องรอ 180 วัน แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่ความล้าช้าในการแก้รัฐธรรมนูญ แต่การลงมติของ กมธ.ที่มีผลเช่นนี้ คือเสียงข้างมาก 13 ต่อ 9 ซึ่งเสียงข้างมากทุกเสียงมากจากกกรรมาธิการฝั่งวุฒิสภา สะท้อนว่าปัจจัยที่จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้นยากมากคือจำนวนเสียงของ สว.ที่จะไม่ครบตามเงื่อนไขที่ต้องมีมากกว่า 1 ใน 3

             นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า หากยึดตามร่างของ สว. ก็ไม่ต้องรอ 180 วันแต่จะมีปัญหาว่าพอไปทำประชามติแล้ว โอกาสไม่ผ่านจะสูงมากและส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่เกิดขึ้นขึ้นอีกเลย เพราะฉะนั้นสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องยืนยันเสียงของตนที่เคยลงมติเป็นเอกฉันท์ให้การทำประชามติมีเพียงชั้นเดียว จึงจำเป็นต้องไม่เห็นชอบ และเมื่อครบ 180 วันก็มายืนยันร่างของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าอาจจะทำให้ช้าและไม่สามารถลงประชามติได้ทันการเลือกตั้งนายก อบจ.ในต้นปีหน้าก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าแล้ว คงต้องปล่อยให้ช้า และค่อยไปแก้ปัญหากัน เช่น ทำให้ผ่านร่าง พ.ร.บ. แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.  ซึ่งแม้กระบวนการทั้งหมดนี้อาจเสร็จไม่ทันในอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ แต่ก็อาจจะเขียนไว้ให้มีผลข้ามไปถึงสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้าก็อาจทำได้

              อย่างไรก็ตาม นายจาตุรนต์ ย้ำว่า การได้เสียง สว. เกินกว่า 1 ใน 3 มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งนี้คือจุดสำคัญที่ต้องมาช่วยกันคิดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยได้กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อสังเกตของการที่คณะกรรมาธิการร่วมฯ มีมติออกมาเช่นนี้ ทำให้เห็นเจตนาที่ชัดเจนของกมธ.ฝั่งสว.ที่ต้องการให้กฎหมายประชาติมี 2 ชั้น ซึ่งจะมีผลทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่เกิดขึ้น เพราะฉนั้นต้องคิดต่อไปว่า ในขั้นที่มีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญกันในรัฐสภา จะมีเสียงของ สว. เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิภาหรือไม่ และถ้ามีไม่พอก็เท่ากับว่าเราจะยังแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้มี ส.ส.ร.และมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาไม่ได้

 

เรณู เขมาปัญญา ข่าว เรียบเรียง (แฟ้มภาพ)

 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ