30 ต.ค.67- กมธ. ปปง. สภาฯ ยืนยันพร้อมเอาผิดผู้ต้องหาคดี ดิไอคอน กรุ๊ป ให้ถึงที่สุด และหากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่ามีนักการเมืองเรียกรับผลประโยชน์ก็ต้องเอาผิดด้วย เผยเตรียมเสนอร่างกฎหมายป้องกันธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เข้าสู่การพิจารณาของสภา

image

        นายเลิศศักดิ์  พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุม กมธ. ในวันนี้ (30 ต.ค.67) ที่มีวาระพิจารณา คดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ว่า ที่ประชุม กมธ. ได้เชิญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตำรวจสอบสวนกลาง และผู้เสียหาย เข้ามาให้ข้อมูล ซึ่งเป็นติดตามเกี่ยวกับการยึดอายัดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง และตามความคืบหน้าการดำเนินการของตำรวจหลังส่งคดีดิไอคอนให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แล้ว ส่วนความเห็นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าคดีนี้เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่และฉ้อโกงประชาชนนั้น ปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้ามารับผิดชอบคดีดิไอคอน เป็นหลักแล้ว และส่วน สำนักงาน ปปง. มีอำนาจในการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของผู้ต้องสงสัยและผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้น บทบาทของ กมธ. จึงมีแนวทางติดตามเรื่องนี้อย่างไม่ลดละ และอาจมีการพิจารณาถึงการตั้งคณะอนุ กมธ. ขึ้นมาติดตามคดีดิไอคอนให้ถึงที่สุด ตลอดจนจะมีการพิจารณาศึกษาแก้ไขกฎหมายหรือเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่จะเป็นการป้องกันการทำธุรกิจขายตรงที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ด้วย

        ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวว่ามีคนในพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนฯ นั้น นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนฯ ขณะที่การตรวจสอบนักการเมืองรายหนึ่งที่ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจากกรณีคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์นั้น หากการตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดิไอคอนฯ ก็จะเชิญบุคคลดังกล่าวมาชี้แจงด้วย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า สส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน กมธ. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน แต่บุคคลที่ไม่ใช่ สส. แล้วกลับใช้ตำแหน่ง ใน กมธ. ไปเรียกรับประโยชน์ส่วนตัวถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และพรรคการเมืองนั้นต้องจัดการให้เรียบร้อย

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ