6 พ.ย. 67 - สส.ณัฐพล จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน แนะรัฐบาลผลักดันธนาคารช่วยผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยในเมืองน้ำลดเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมพิจารณาเพิ่มมาตรการเที่ยวเมืองหลังน้ำลด ฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคเหนือ 

image

          นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงมาตรการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ว่ามาตรการดังกล่าวให้สิทธิประชาชนเข้าร่วมเพียง 10,000 สิทธิ สิทธิละ 400 บาท เท่ากับกระตุ้นวงเงินรวมเพียง 4 ล้านบาท แต่เมื่อคิดค่าบริหารจัดการหรือค่าทำระบบรองรับอาจจะแพงกว่าสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ส่วนตนเห็นว่าการช่วยเหลือในขณะนี้รัฐบาลควรช่วยฟื้นฟูผู้ประกอบการให้พร้อมกลับมาดำเนินธุรกิจ แล้วจึงกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับนักท่องเที่ยว เห็นได้ชัดจากการลงพื้นที่ช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนหลังน้ำลดในช่วงที่ผ่านมา พบใบปลิวนามบัตรเงินกู้นอกระบบจำนวนมากอยู่ในเมืองที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม สะท้อนถึงปัญหาใหญ่เรื้อรังที่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ อุปสรรคที่สำคัญของผู้ประกอบการในขณะนี้ คือ การขาดสภาพคล่อง ซึ่งจำเป็นต้องจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการกู้มาฟื้นฟูกิจการและรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

         นายณัฐพล กล่าวถึงโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ของธนาคารออมสิน 50,000 ล้านบาท ว่ารัฐบาลควรลงมากระตุ้นให้สถาบันการเงินเพิ่มการประชาสัมพันธ์ และผลักดันให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยด้วย เพราะหากยังนิ่งเฉยอยู่ผลลัพธ์คือผู้ประกอบการจะเข้าไม่ถึงสินเชื่อ ซึ่งจะไม่ต่างจากโครงการ Soft Loan ของธนาคารออมสิน 100,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติ 2 เดือน แต่ปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ได้เพียง 5,942 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 เท่านั้น ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เคยเสนอผ่านกระทู้ถามสดด้วยวาจา เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยมาตรการเที่ยวเมืองหลังน้ำลด สามารถใช้หลักการเดียวกับมาตรการเที่ยวเมืองรองของรัฐบาลได้ เพียงแค่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ จูงใจให้บุคคลทั่วไปหรือกลุ่มบริษัทออกไปเที่ยวเมืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และนำไปหักลดหย่อนภาษีบุคคลและนิติบุคคลได้ ยกตัวอย่าง เช่น มาตรการเที่ยวเมืองรองให้บุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายเที่ยวเมืองรองไปหักภาษีได้ 15,000 บาท นิติบุคคลหักค่าใช้จ่ายเที่ยวเมืองรองได้ 1.5 - 2.0 เท่า ซึ่งคาดว่าจะเกิดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวถึง 6,500 ล้านบาท จึงเป็นโอกาสที่เมืองน้ำลดซึ่งอยู่ระหว่างการฟื้นฟูเมืองควรจะได้รับในเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะรองรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม ซึ่งรัฐบาลสามารถเพิ่มมาตรการเที่ยวเมืองน้ำลดเพิ่มเติมจากมาตรการเที่ยวเมืองรองของรัฐบาลได้ทันที

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ