นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และคณะ เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากตามที่มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทำการซื้อที่ดินในตำบลศีรษะจรเข้น้อย เพื่อสร้างคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจำหน่ายให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป โดยมีการกู้ยืมเงินจากบุคคลรายหนึ่งเพื่อใช้ดำเนินโครงการดังกล่าวจำนวน 480 ล้านบาท โดยให้ถือสัญญาจดทะเบียนจำนองที่สำนักงานที่ดิน เป็นสัญญากู้เงินและดำเนินการจดทะเบียนจำนองที่ดินแปลงที่ตั้งโครงการค้ำประกัน แต่ได้รับเงินกว่า 100 ล้านบาทในวันทำสัญญากู้ยืมเงิน จากนั้นไม่เคยได้รับอีกเลย ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่อง จนถูกยึดทรัพย์ที่เป็นที่ดินและถูกสำนักงานบังคับคดี จังหวัดสมุทรปราการขายทอดตลาด โดยพบว่า บริษัทที่ประมูลได้ คือ บริษัทที่มีเจ้าหนี้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทจึงได้ว่าจ้างทนายความร้องเพิกถอนการขายทอดตลาด ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 และมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาด โดยให้กรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทดังเดิม แต่เจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานที่ดิน ยังไม่ได้ทำการจดทะเบียนเพิกถอนการโอน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอผลคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่ปรากฎว่า บริษัท ที่ซื้อที่ดินผืนดังกล่าวจากการขายทอดตลาด ได้แบ่งแยกโฉนดออกหลายแปลงแล้วขายให้กับ อบต.ศีรษะจรเข้น้อย เพื่อก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ และมีการปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามายังที่ดินของบริษัทด้วย ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และงบประมาณของ อบต.ศีรษะจรเข้น้อยด้วย จึงขอให้สภาผู้แทนราษฎร ช่วยเหลือด้านคดีความ พร้อมหาแนวทางป้องกันการทุจริตภาครัฐ และให้ความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าวด้วย
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า เรื่องนี้ทำให้หน่วยงานภาครัฐได้ความเสียหาย ซึ่งพฤติกรรมการฉ้อโกงรัฐเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปนำเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รับทราบ และจะพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
