8 ม.ค. 67 - มติวิป 3 ฝ่าย เลื่อนพิจารณาร่างแก้ รธน. มาตรา 256 ไปอีก 1 เดือน เป็น 13-14 ก.พ. นี้ เพื่อความรอบคอบ ยืนยันไม่กระทบกรอบเวลา เหตุต้องรอร่างกฎหมายประชามติครบ 180วัน ด้านประธานวิปรัฐบาล เผย ครม. ไม่เสนอร่างประกบ 

image

         นายวันมูหะะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
          นายวันมูหะมัดนอร์ เปิดเผยผลการหารือว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า จะให้มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ นี้ และคงจะลงมติวาระที่ 1 ได้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักพอดี อาจจะเป็นการประชุมที่เต็มไปด้วยความรัก ต่อประชาชน และเมื่อครบกำหนด 180 วันแล้ว ก็สามารถนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบไปทำประชามติ ตามกฎหมายประชามติ ที่สภาผู้แทนราษฎรยืนยันได้ และตามกฎหมายนี้ จะต้องทำประชามติ 2 ครั้ง โดยหากผ่านวาระสามแล้ว จะต้องไปถามประชาชน ว่าเห็นชอบกับการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หากประชาชนเห็นชอบจึงจะทำการเลือก สสร.ได้ และเมื่อร่างเสร็จแล้วนำมาผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ แล้ว จึงจะไปถามประชาชนอีกรอบหนึ่ง หากประชาชนเห็นชอบก็เป็นไปตามขั้นตอน รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป แต่หากประชาชนไม่เห็นชอบก็ถือว่าจบ และถือว่าทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
          นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า การเลื่อนเวลาไปอีก 1 เดือน โดยไปพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ไม่กระทบกับกรอบเวลา เนื่องจากแม้จะพิจารณาเสร็จเร็ว ก็จะต้องรอร่างกฎหมายประชามติให้ครบ 180 วัน ซึ่งเหลือเวลาอีก 100 กว่าวัน เพื่อจะต้องทำประชามติ ถามประชาชน ดังนั้น คิดว่าหากพิจารณาด้วยความรอบคอบทุกฝ่ายก็ไม่ถือว่าช้าเกินไป เพราะอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยดี และทุกคนรับผิดชอบร่วมกัน
          ส่วนความหวังที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันรัฐสภาชุดนี้หรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้ยังไม่สามารถจะพูดได้ว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยครั้งแรก คือ สิ้นสุดวาระสาม และการให้ความเห็นชอบ หลังจากที่ สสร. ยกร่างใหม่แล้ว อีกทั้งประชาชนก็จะต้องให้ความเห็นชอบด้วย อย่างน้อย 2 รอบ ดังนั้นทั้งหมดเป็นความหวังว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หน้าตาจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบว่า สสร. จะยกร่างมาอย่างไร
          ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าเหตุที่ต้องเลื่อนเวลาออกไปอีก 1 เดือน เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญ มีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งร่างที่เสนอมา สว. ก็ยืนยันว่าจะต้องขอไปพิจารณาศึกษาก่อน ขณะที่ในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 แต่จะให้โอกาสพรรคการเมืองอื่น ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงร่างของพรรคเพื่อไทยให้ ครม. ได้รับทราบ เพื่อให้แต่ละพรรคที่จะแก้ไขได้ไปเตรียมการและเสนอร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณา จึงต้องให้โอกาสทุกพรรคไปทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลา ส่วนที่มองว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล เหตุใด ครม. จึงไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มีการพูดคุยกันแล้ว บางพรรคก็ยังไม่พร้อม ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้พรรคร่วมรัฐบาลว่าหากพร้อมที่จะเสนอ ร่างก็ยินดี และถือว่าทำงานร่วมกัน
          ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ความจริงแล้วฝ่ายค้านไม่ค่อยเห็นด้วยกับการทอดเวลาออกไป โดยอยากให้เลื่อนไปแค่ 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้มีเวลาในชั้นกรรมาธิการ ได้ศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ก็เข้าใจดีในเหตุผลที่ทาง สว. ขอเวลาในการศึกษาร่างก่อน จึงพบกันครึ่งทาง และคิดว่าไม่ได้กระทบกับกรอบเวลามากนัก เพราะในชั้นกรรมาธิการสามารถนัดประชุมบ่อยขึ้นได้ ดังนั้น แม้เห็นไม่ตรงกัน แต่ก็อยากให้ทุกอย่างราบรื่น
          นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยืนยันว่า ในส่วนของ สว. ไม่มีสัญญาณอะไรในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนเป็นอิสระ แต่เห็นว่าเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ และเท่าที่คุยกันนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกบเข้ามาอีก ทาง สว. ต้องใช้เวลาในการศึกษา พร้อมยอมรับว่า เท่าที่พูดคุยกันในส่วนของ สว. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เนื่องจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้แล้ว กังวลว่าจะมีความเสี่ยง ดังนั้น สว. จึงต้องการศึกษาให้ละเอียดก่อน และแน่นอนว่าหากไม่ชัดเจน คงไม่ลงมติเห็นชอบ เพราะเรื่องนี้มีทั้ง สว. ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ