โดย
นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รับหนังสือร้องเรียนจากนายอนันต์ชัย ไชยเดชทนายความ และชาวบ้านเกาะเต่า ขอให้ใช้กระบวนการด้านนิติบัญญัติในการตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ขึ้นทะเบียนพื้นที่เกาะเต่ากว่า 15,000 ไร่ เกินกว่าที่ครอบครองจริงเพียง 25 ไร่ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
นายอนันต์ไชย กล่าวว่า เกาะเต่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุทำให้ชาวบ้านจำนวนมากและผู้ประกอบการธุรกิจบนเกาะไม่สามารถจดแจ้งหรือขึ้นทะเบียนได้ เดิมทีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะมาก่อน ปี 2480 ก่อนที่กรมราชทัณฑ์จะมาสร้างเรือนจำใน ปี 2485 โดยเมื่อเรือนจำไม่ได้ใช้งาน กรมธนารักษ์ จึงได้แจ้งสิทธิการครอบครอง (ส.ค. 1) และขึ้นทะเบียนเกาะเต่าเป็นที่ราชพัสดุทั้งเกาะเนื้อที่ 15,000 ไร่ หรือประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร ทั้งที่ความจริงแล้วเรือนจำมีเนื้อที่เพียง 25 ไร่ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ต่อมา ปี 2497 ประมวลกฎหมายที่ดินเริ่มใช้บังคับ และ ปี 2498 ชาวบ้านที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินได้ไปขึ้นทะเบียนสิทธิครอบครองที่ดิน ตามแบบ ส.ค. 1 แต่กลับไม่สามารถแจ้งสิทธิการครอบครองได้ เนื่องจากติดปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2529-2565 ชาวบ้านเกาะเต่าได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปหลายแห่ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดิน ซึ่งมี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานกรรมการฯ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า กรมธนารักษ์ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุและ ส.ค. 1 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้คืนที่ดินให้กับชาวบ้าน แต่กรมธนารักษ์กลับเพิกเฉย
ด้านนางสาวนันทนา กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า กรณีที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่าเป็นปัญหาคุกบุกรุกที่คน ซึ่งอยู่อาศัยมาก่อน โดยการตั้งกระทู้ถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสามารถกระทำได้ในช่วงเปิดสมัยประชุม แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ดังนั้น หากจะดำเนินการเร่งด่วน สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนไปยังกรมธนารักษ์ พร้อมรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่งไปยังกระทรวงการคลัง ให้พิจารณาว่าจะออกเป็นกฎกระทรวงหรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้ชาวบ้านเกาะเต่าสามารถดำเนินการขอออกเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินได้โดยเร็ว
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
