15 พ.ย.67- สส.เซีย ขอรัฐบาลควรมีความชัดเจนในการร่วมให้สัตยาบันในอนุสัญญา ILO 87 และ 98 ชี้หากล่าช้าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และอาจถูกตัดสิทธิทางภาษี กระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

image

  นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวสุนทรพจน์เรื่องเสรีภาพการรวมกลุ่มและศักดิ์ศรีของแรงงานแพลตฟอร์มและแรงงานข้ามชาติ ในการจัดโครงการรณรงค์ แรงงานแพลตฟอร์ม&แรงงานข้ามชาติ:หนทางสู่การจัดตั้งและการเข้าถึงสิทธิประกันสังคม มาตรา 33  ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกับสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม (JELI) จัดขึ้น ณ ห้องประชุม ฮิลล์เครสท์ โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว กรุงเทพฯ  โดยกล่าวถึงสภาพปัญหาการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากเคยประสบด้วยตนเอง จึงเข้าใจและให้ความสำคัญกับปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 และ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ซึ่งถือเป็นอนุสัญญาที่เป็นหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญที่สุด หลักการหนึ่งของ ILO ที่เชื่อว่าจะเป็นการสร้างหลักประกันสำคัญให้กับคนทำงาน และจะนำมาซึ่งสังคมที่เป็นธรรมและสันติสุข รัฐบาลจึงควรส่งสัญญาณให้ชัดเจนในการร่วมให้สัตยาบันในอนุสัญญา ILO 87 และ 98 เพราะหากล่าช้าไปกว่านี้จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ การถูกตัดสิทธิทางภาษี (GSP) ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างมากกว่าผลทางด้านความมั่นคงของชาติและด้านสังคมที่รัฐบาลให้ความกังวลอยู่ในขณะนี้

ณรารัฏฐ์  โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง
 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ