นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ ว่า ได้เชิญสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกท.) มาชี้แจงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยในการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ แต่ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ส่งหนังสือแจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมตามคำเชิญได้ โดยไม่ส่งผู้แทนหรือข้อมูลใด ๆ มาให้คณะกรรมาธิการฯ ทั้งที่ประเด็นดังกล่าว มีความสัมพันธ์โดยตรงกับต้นทุนของผู้ประกอบการและค่าไฟฟ้าของประชาชนในอนาคต ตลอดจนกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ด้านนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง ข้อพิรุธในการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใน 4 ประเด็น คือ ไม่มีการประมูลส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจะมีราคาสูงขึ้น ตลอดอายุสัญญา 25 ปี ไม่มีประกาศหลักเกณฑ์การคำนวณคะแนนคัดเลือก โดยเปิดให้ใช้ดุลพินิจ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าจะสามารถล็อกผู้ชนะได้ มีการล็อกโควตาให้เอกชนที่ยื่นโครงการในปี 2565 ให้ได้สิทธิ์ก่อน และมีการอ้างพลังงานสะอาด แต่ไม่ตรงกับความต้องการของเอกชน ในการเลือกใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% (RE100) ทำให้รัฐต้องซื้อไฟฟ้าเกินความจำเป็น ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนดังกล่าวจะทำให้ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายมีต้นทุนแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า ได้สั่งให้ทบทวนการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยจะต้องมีการเปิดประมูลและต้องมีการแก้ไขสัญญาภายใน 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ จะทำหนังสือเชิญ สนพ. และ กกพ. มาให้ข้อมูลอีกครั้ง ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน นี้ รวมถึงจะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าในการแก้เงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ ด้วย
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
7 พ.ย. 67 - กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และ รมว.พลังงาน แจงปมรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รอบ 2 วันที่ 21 พ.ย. นี้ ห่วงสัญญาไม่เป็นธรรม ค่าไฟเพิ่มสูงกระทบประชาชนและผู้ประกอบการ