นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ โดยขอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ปรับเปลี่ยนมาตรการทำให้ราคาข้าวโพดสูงขึ้น สืบเนื่องจาก สัปดาห์ที่ผ่านมาตนเองในฐานะคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมพิจารณาในประเด็นปัญหาดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลเรื่องราคาข้าวโพดตกต่ำ พบว่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทั้งเดือนเป็นช่วงเริ่มต้นเปิดฤดูกาลข้าวโพดของประเทศไทย โดยข้าวโพดมีราคาลดลงอย่างรวดเร็ว 2 บาทกว่าต่อกิโลกรัม จากเดิมที่มีราคากิโลกรัมละ 12 บาท อีกทั้งราคาหน้า ไซโลแถบภาคกลางบางไซโลเหลือไม่ถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการทราบว่ามีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบ.ขพ.) ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีการหารือถึงการเพิ่มช่องทางการตลาด และการส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมองว่ามาตรการต่าง ๆ ที่เห็นไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อ การลดต้นทุนการกู้เงินระยะยาว เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาดำเนินการนานพอสมควร แต่ขณะนี้ผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดออกมาแล้ว หากยังดำเนินมาตรการเช่นนี้จะไม่ส่งผลให้ราคาข้าวโพดปรับสูงขึ้น เปรียบเหมือนเป็นการเยียวยาล่วงหน้ามากกว่า ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดต้องการขายข้าวโพดเพื่อหวังจะได้เงินมาใช้สอยในชีวิตประจำวัน ดังนั้นต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ปรับเปลี่ยนมาตรการโดยทำให้ข้าวโพดมีราคาสูงขึ้นโดยเร็ว
ขณะที่นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปัญหาเดียวกันว่าปัจจุบันข้าวโพดแห้งมีราคาไม่ถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวโพดสดราคาอยู่ที่ประมาณ 6 บาทกว่าต่อกิโลกรัม โดยหากราคายังเป็นเช่นนี้ มองว่าเกษตรกรจะอยู่ไม่ได้แน่นอน เพราะราคาข้าวโพดตกต่ำต่อเนื่อง และราคาตกต่ำมีปัจจัยมาจากการนำเข้าวัตถุดิบทดแทน อาทิ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวสาลี ยิ่งนำเข้ามาในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด และขาดการควบคุมการนำเข้า จะทำให้ราคาตกต่ำประกอบกับเป็นช่วงที่เกิดมรสุมพายุส่งผลทำให้ความชื้นที่เกิดขึ้นในข้าวโพดสูงขึ้นเป็นความชื้นสะสมราคาจึงตกต่ำยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบดังกล่าวด้วย
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
