นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีแสดงมุทิตาจิตแก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ลูกจ้างประจำ ผู้เกษียณอายุราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง คณะผู้บริหารและบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมในพิธี โอกาสนี้ นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดงานแสดงมุทิตาจิตแก่ผู้เกษียณอายุราชการเป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงมุทิตาจิตและประกาศเกียรติคุณให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้เกษียณอายุราชการทุกๆคนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการจนบรรลุความสำเร็จด้วยดี เกิดคุณประโยชน์โดยส่วนรวมแก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และประเทศชาติ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ตระหนักถึงความสำคัญ และความเสียสละของบุคลากรทุก ๆ คน จึงได้จัดงานแสดงมุทิตาจิตแก่ผู้เกษียณอายุราชการขึ้น โดยปีนี้มีผู้เกษียณอายุราชการจำนวน 46 คน โดยเป็นข้าราชการ 43 คน และลูกจ้างประจำ 3 คน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้เกษียณอายุราชการทุกคน พร้อมนำกล่าวมุทิตาจิต มีใจความตอนหนึ่งว่า สถาบันนิติบัญญัติมีการเติบโตขึ้น ขยายงานมากขึ้น จึงเป็นที่พึ่งของประชาชน พร้อมทั้งเป็นกลไกที่สำคัญให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งบุคลากรทุกคนล้วนเสียสละหยาดเหงื่อแรงกาย เพื่อความเจริญเติบโตของรัฐสภา ซึ่งผู้ที่เกษียณอายุราชการทุกคนล้วนเป็นผู้ที่รับใช้สภาผู้แทนราษฎรมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 30 - 40 ปี ผู้เกษียณอายุราชการทุกคนได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติในสถาบันแห่งนี้ เพราะสถาบันนิติบัญญัติเป็นแหล่งรวมของผู้คนจากทุกจังหวัดในประเทศ เป็นสถาบันในการออกกฎหมายเพื่อนำไปดูแลประชาชน และผู้ยากไร้ จึงนับเป็นงานที่บริการประชาชนในทุกวิชาชีพ จึงขอให้ผู้ที่เกษียณอายุราชการในวันนี้จงภาคภูมิใจว่าในชีวิตของทุกคนครั้งหนึ่งเคยได้ร่วมงานกับสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภา มีโอกาสได้ร่วมงานกับบุคคลมากหน้าหลายตาตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงอย่างนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี จนกระทั่งถึงนิสิตนักศึกษาและผู้ยากไร้
ด้านว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นหนึ่งในผู้เกษียณอายุราชการในปีนี้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววิทยุโทรทัศน์รัฐสภาเกี่ยวกับการทำงานตลอด 32 ปีที่ผ่านมาว่า ตนมีความสุขตลอดเวลาการทำงานในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดี มีโจทย์ที่ท้าทายในการทำงานในฐานะเลขานุการของสถาบันนิติบัญญัติ เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ระเบียบข้อบังคับ รวมถึงกฎระเบียบของทางรัฐสภา พร้อมรองรับการปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภาทุกคนทั้งบทบาทของ สส. คณะกรรมาธิการ หรือในฐานะสมาชิกรัฐสภาระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั้งนี้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าคลื่นลูกใหม่ย่อมดีกว่าเสมอ สำหรับผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไปจะมีวาระดำรงตำแหน่งถึง 5 ปี รวมทั้งตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านนิติบัญญัติ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ ที่จะมาทดแทนผู้บริหารชุดเก่าที่เกษียณอายุราชการ อีกทั้งตนต้องการให้ทุกคนทำงานอย่างมีความสุข ยึดหลักให้อภัยกันและกัน และมีความสามัคคีร่วมกันในหมู่บุคลากร รวมถึงยึดประโยชน์ของราชการต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตน
เช่นเดียวกับนางจิราภรณ์ มาลากาญจน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานผลิตรายการโทรทัศน์ สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ซึ่งเกษียณอายุราชการในปีนี้ ได้ฝากให้บุคลากรรัฐสภารุ่นน้องยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะป้องกันให้กับตัวเรา ซึ่งทำให้งานประสบความสำเร็จและเกิดปลอดภัยในชีวิตราชการ
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง